โครงสร้างภาษีใหม่ คนรวยได้ประโยชน์จริงหรือ ?




เห็นเมื่อวานนี้ มีการประกาศปรับโครงสร้างภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ หลายคนอาจจะเห็นแล้วว่า โครงสร้างภาษีที่ปรับใหม่เป็นอย่างไร เพราะทั้งข่าวใน TV และใน Internet ที่มาเผยแพร่ และน่าจะนำมากล่าวถึงมากขึ้นในช่วงวันถึงสองวันนี้ แต่ใครยังไม่รู้ หรือยังไม่เห็น ผมก็มีเอามาฝากกันให้ดูคร่าวๆ ตามนี้ครับ


  ที่มา : tax.bugnoms.com

ซึ่งอัตราภาษีใหม่นี้จะเริ่มบังคับใช้ในปี 2556 ที่จะต้องยื่นในปี 2557

พอหลังจากประกาศโครงสร้างอัตราภาษีใหม่ออกมา หลายๆ คนอาจะพุ่งเล็งไปที่ เอ่ะ ตัวฉันจะได้ลดลงกว่าเดิมเท่าไหร่นะ ต่อมาก็จะมาดูว่าและพวกรายได้มากหรือน้่อยกว่าฉันลดลงกันเท่าไหร่ ซึ่งอาจจะเกิดมีประเด็น (ดราม่า) ขึ้นมาได้ว่า เอ่ะทำไมของฉันลดน้อยจัง เอ่ะยังงี้พวกรายได้สูงๆ (คนรวยๆ) ก็ได้ประโยชน์ไปเ้ต็มๆ ละซี้ และก่อนจะดราม่า มากกว่านี้ ผมมีเรื่องราวของ "ชาย 10 คน กับการจ่ายค่าเบียร์" มาฝากกัน


ชาย 10 คน กับการจ่ายค่าเบียร์

ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในอเมริกา ทุกๆวันจะมีชาย 10 คน ไปกินเบียร์ที่บาร์แห่งหนึ่ง และค่าเบียร์จะอยู่ที่ 100 ดอลลาร์เท่ากันทุกวัน

ชายสี่คนแรก เป็นคนที่จนที่สุดในกลุ่มจึงไม่ต้องเสียค่าเบียร์
ชายคนที่ 5 จ่ายเพียง $1
คนที่ 6 จ่าย $3
คนที่ 7 จ่าย $7
คนที่ 8 จ่าย $12
คนที่ 9 จ่าย $18
คนที่ 10 ซึ่งเป็นคนที่รวยที่สุดในกลุ่ม จ่าย $59 

เวลาผ่านไป หนึ่งเดือน …สองเดือน พวกเขาก็ยังมาเป็นประจำทุกวัน 

วันหนึ่ง เจ้าของร้านก็บอกข่าวดีกับพวกเขาว่า เนื่องจากพวกเขาเป็นลูกค้าที่ดีมาตลอด เขาจึงอยากจะลดค่าเบียร์ให้ $20 เป็น $80

ชายทั้ง 10 ดีใจมาก ที่ต้องจ่ายค่าเบียร์ลดลงเหลือเพียง $80 อย่างไรก็ตาม การลดราคาครั้งนี้ ก็ไม่ได้กระทบกับชายสี่คนแรกอยู่ดี เพราะในราคาปกติ พวกเขาก็ไม่ต้องจ่ายอยู่แล้ว… 

แล้วชายอีกหกคนที่เหลือหละ??? พวกเขาจะหารส่วนลด 20 ดอลลาร์ยังไง ชายคนนึงเสนอว่า ให้หารเท่าๆกันเพื่อ “ความยุติธรรม”

20 ดอลลาร์ หาร 6 คือ 3.33 … แต่ว่า ถ้าหากลดให้ทุกๆคน คนละ 3 ดอลลาร์ ชายคนที่ 5 และ 6 ก็จะไม่ต้องเสียอะไรเลย นั่นหมายถึงว่า ชายสิบคนที่มากินเบียร์ มีเพียง 4 คนเท่านั้นต้องจ่าย 

เจ้าของร้านจึงเสนอไอเดียว่า ให้ทุกๆคนลดจำนวนเงินที่ตัวเองต้องจ่ายลง ในสัดส่วนที่เท่ากัน จากนั้นเขาก็คำนวณให้เรียบร้อย ผลออกมาก็คือ… 

ชายคนที่ 5 ไม่ต้องเสียอะไรเลย เหมือนชายสี่คนแรก (ลดลง 100%)
คนที่ 6 จ่าย $2 จาก $3 (ลดลง 33%)
คนที่ 7 จ่าย $5 จาก $7 (ลดลง 28%)
คนที่ 8 จ่าย $9 จาก $12 (ลดลง 25%)
คนที่ 9 จ่าย $14 จาก $18 (ลดลง 22%)
คนที่ 10 จ่าย $49 จาก $59 (ลดลง 16%) 

ทุกคนก็เหมือนจะเห็นด้วยตามไอเดียนี้ จนกระทั่งบาร์ปิด

ชายคนที่ 6 ก็นึกขึ้นมาได้ จึงพูดออกมาว่า “ทำไมฉันได้ส่วนลดเพียง 1 ดอลลาร์ จาก 20 ในขณะที่เขาได้ตั้ง 10 !!!” พร้อมกับชี้ไปหา ชายคนที่สิบ “นั้นนะสิ” ชายที่คน 5 พูดเสริมออกมา “ฉันลดไปเพียง 1 ดอลลาร์” ทุกคนบ่นออกมาต่างๆนานา ว่าไอเดียนี้ไม่ยุติธรรมเลย 

จากนั้น ชายสี่คนแรกที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยตั้งแต่แรก ก็พูดออกมาว่า “พวกเราไม่ได้อะไรเลย จริงๆเราควรได้อะไรบ้างสิ นี้มันเอาเปรียบคนจนชัดๆ”

ชายคนที่ 8 และ 9 ก็รวมหัวช่วยกันรุมชายคนที่ 10

คืนต่อมา…ชายคนที่ 10 ก็ไม่ได้มากินเบียร์กับพวกเขา เมื่อถึงเวลาต้องจ่ายเงิน พวกเขาก็ได้เรียนรู้บางอย่างที่สำคัญ ก็คือ จำนวนเงินที่พวกเขาเคยจ่ายนั้น รวมกันยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของค่าเบียร์

 -David R. Kamerschen, Ph.D.-

ที่มา : ==maytawee==, http://www.stock2morrow.com
-----------------------------------------------------------------------

หลายคนอาจจะเคยอ่านเรื่องนี้มาบ้างแล้ว ที่เอามาฝากกันเพราะเห็นว่าน่าจะทำให้เราเข้าใจระบบภาษีกันมากขึ้น จะได้ไม่ต้องไปมัวให้ความสำคัญกับคนอื่นๆ ว่าได้มากกว่าตัวเองเท่าไหร่ และที่สำคัญมันอยู่ที่เราเลือกว่า เราจะเลือกมองด้านในของสิ่งที่เกิดขึ้น (จะมองจำนวนเงิน หรือมองเป็นสัดส่วน)

มองให้ตัวเองมีความสุขกันนะครับ

ถ้าใครอยากเห็นภาพตัวเลขเปรียบเทียบพร้อมคำอธิบายที่ชัดเจน ไปที่นิ่เลยครับ ปรับโครงสร้างภาษีใหม่ ใครได้-ใครเสีย

Comments