World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 37 นาทีที่แล้ว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานไต่ระดับขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยบดบังปัจจัยลบจากไมโครซอฟท์ คอร์ป และอเมซอนดอทคอม อิงค์ ซึ่งรายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่ตกต่ำลงจนสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 23.95 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 9,093.24 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.97 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 979.26 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 7.64 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 1,965.96 จุด สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 68 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้นหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกแข็งแกร่งตลอดสัปดาห์ ขณะที่ภาคเอกชนส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการที่สดใสในช่วงไตรมาสสอง สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ปิดที่ 68.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 66.85-68.08 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) ท่ามกลางความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่ออกมาในแง่บวก ทำให้นักลงทุนปลีกตัวไปซื้อขายในตลาดหุ้น รวมถึงต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ระดับ 1.4214 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับสูงสุดของวันพฤหัสบดีที่ 1.4291 ยูโร/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.2% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.76 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.92 เยน/ดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0701 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0719 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 134.70 เยน/ยูโร จากระดับ 134.30 เยน/ยูโร สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อขายในตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันและพากันลดการถือครองสัญญาทองคำท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงาในวันสุดท้ายของปลายสัปดาห์ หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 953.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.70 ดอลลาร์ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากที่โวดาโฟน กรุ๊ป บริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกที่สดใส ซึ่งช่วยหนุนให้ดัชนี FTSE ไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 16.81จุด หรือ 0.4 % แตะที่ 4,576.61 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์คาด GDP ไตรมาส 2 สหรัฐหดตัวน้อยลง หลังรัฐบาลใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 12 นาทีที่แล้ว
นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐจะหดตัวน้อยลง เนื่องจากตัวเลขการค้าและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐสามารถชดเชยการทรุดตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐจะหดตัวลง 1.5% หลังจากทรุดตัวลง 5.5% ในไตรมาสแรก โจเอล นารอฟฟ์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Naroff Economic Advisors Inc "ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐเริ่มทุเลาลง เราคาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มหดตัวน้อยลงในไตรมาสที่ 2 และจากนั้นจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น โดยเฉพาะยอดขายบ้านที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันถึง 3 เดือน นอกจากนี้ ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลกจะช่วยให้ยอดส่งออกของสหรัฐกระเตื้องขึ้น และจะทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ค่อยๆฟื้นตัวขึ้น" ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.6% แตะที่ 4.89 ล้านยูนิตต่อปี จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 4.72 ล้านยูนิตต่อปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 4.84 ล้านยูนิต โดยยอดขายบ้านเดือนมิ.ย.ของสหรัฐทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เพราะได้แรงหนุนจากมาตรการช่วยเหลือด้านภาษี ดอกเบี้ยเงินกู้ระดับต่ำ และราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง
เกาหลีใต้เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.พุ่งแรงสุดในรอบ 7 ปีหลังรบ.ใช้แผนฟื้นเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 41 นาทีที่แล้ว
ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 109 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 106 จุด เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่ถูกปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ได้ช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง
ธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในระดับสูงกว่า 100 จุดบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นลบ เศรษฐกิจเกาหลีใต้ไตรมาสสองขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากยอดส่งออกและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนดีดตัวขึ้น เศรษฐกิจเกาหลีใต้ไตรมาสสอง ขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี เพราะได้ปัจจัยบวกจากการใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสสอง เพิ่มขึ้น 2.3% จากช่วงไตรมาสแรกที่ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.1% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ที่.2% อีกทั้งยังเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 ซึ่งโตในระดับ 2.6% แต่หากเทียบเป็นรายปี GDP ลดลง 2.5% เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียที่เศรษฐกิจดีดตัวขึ้นเช่นเดียวกับจีนและสิงคโปร์ หลังจากที่เกิดวิกฤตค่าเงินตกต่ำ 26% เมื่อปีที่แล้วจากความวิตกกังวลว่าบริษัทเอกชนจะไม่สามารถชำระหนี้ต่างประเทศได้ แต่เกาหลีใต้ก็สามารถหาทางออกจากวิกฤตดังกล่าวด้วยการทำข้อตกลงสว็อปค่าเงินดอลลาร์กับสหรัฐ และอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคาร รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายและจัดตั้งเงินทุนให้ธนาคารพาณิชย์และปรับลดดอกเบี้ย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
ญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยจากดินถล่มและน้ำท่วมภาคตะวันตกหลังฝนตกหนักต่อเนื่อง
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 16 ชั่วโมง 7 นาทีที่แล้ว
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนภัยจากเหตุดินถล่มและน้ำท่วมในภาคตะวันตก หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่องวันนี้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 7 ราย สูญหายอีก 2 ราย ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายทาโร่ อาโสะ นายกฯญี่ปุ่นได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปยังเมืองโฮฟุ เขตยามากูจิ เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย หลังจากที่ฝนกลงมาอย่างหนักจนเกิดเหตุโคลนถล่มจนมีผู้เสียชีวิต 6 ราย นอกจากนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยายังได้เตือนประชาชนให้ระวังภัยจากฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่มในเขตฟูกุโอกะ นางาซากิ ซากะ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของคิวชู ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของฟูกุโอกะออกประกาศแนะนำให้ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำกว่า 2 หมื่นครัวเรือนอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำอาจจะสูงขึ้นจนล้นทะลักท่วมพื้นที่ได้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 23.95 จุด แม้ไมโครซอฟท์-อเมซอนเผยผลกำไรตกต่ำ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 06:42:00 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานไต่ระดับขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยบดบังปัจจัยลบจากไมโครซอฟท์ คอร์ป และอเมซอนดอทคอม อิงค์ ซึ่งรายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่ตกต่ำลงจนสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 23.95 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 9,093.24 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.97 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 979.26 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 7.64 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 1,965.96 จุด บรรยากาศการซื้อขายในวันนี้ค่อนข้างผันผวน แต่ตลาดสามารถพุ่งปิดเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ต่อเนื่องจากที่ขยายตัวแข็งแกร่งเมื่อวันก่อนขานรับยอดขายบ้านมือสองในเดือนมิ.ย.ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และช่วยผลักดันดัชนีทะยานฝ่าระดับ 9,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวกับคณะกรรมการกำกับดูแลภาคการเงินว่าได้มีการปรับลดวงเงินกู้ฉุกเฉินลง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าจุดต่ำสุดของวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำสิ้นสุดลงแล้ว ขณะเดียวกัน ในระยะนี้บริษัทเอกชนหลายแห่งสามารถรายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาดเพราะใช้มาตรการปรับลดต้นทุนอย่างเต็มสูบ ขณะที่รายได้ของบริษัทบางแห่งยังคงซบเซาเพราะผู้บริโภคเลือกที่จะออมเงินมากกว่านำเงินไปจับจ่ายใช้สอย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงนำผลประกอบการภาคเอกชนที่ดีขึ้นเป็นเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวขึ้นได้ช่วงปลายปีนี้ คีธ วอลเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Artio Global Equity Fund กล่าวว่า "เศรษฐกิจกำลังเดินมาถึงจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่ได้มีแค่ช่วงขาลงเพียงอย่างเดียว ดังนั้นสถานการณ์ต่างๆจะเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง" อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก of Stuart Frankel & Co. เตือนว่า แม้ดัชนีจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ตลาดยังคงต้องจับตาการายงานตัวเลขผลประกอบการของผู้ค้าปลีกที่จะบ่งบอกถึงสถานะทางการเงินของผู้บริโภคที่แท้จริง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สร้างความหวั่นวิตกในตลาด โดยล่าสุดสหรัฐได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ที่ลดลงสู่ระดับ 66 จุด จากระดับ 70.8 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ หุ้นเอ็กซ์ซอนโมบิล และโคโนโคฟิลลิปส์ นำหุ้นกลุ่มพลังงานปิดเคลื่อนไหวในแดนบวก ขณะที่หุ้นไมโครซอฟท์ดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่ต้นปีที่ระดับ 8.3% หลังบริษัเผยผลประกอบการที่ร่วงหนักเกินคาด ขณะที่อเมซอนดอทคอมรายงานยอดขายที่ลดลงเช่นกันจนกดดันให้หุ้นตกลงเกือบ 8%
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 16.81 จุด ขานรับผลประกอบการโวดาโฟน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 08:59:27 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากที่โวดาโฟน กรุ๊ป บริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกที่สดใส ซึ่งช่วยหนุนให้ดัชนี FTSE ไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 16.81จุด หรือ 0.4 % แตะที่ 4,576.61 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ริชาร์ด ฮันเตอร์ นักวิเคราะห์จาก Hargreaves Lansdown Stockbrokers กล่าวว่า "การเปิดเผยผลประกอบการของโวดาโฟนช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายและหนุนให้ตลาดปิดในแดนบวกได้สำเร็จ" ทั้งนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 พร้อมทำสถิติเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2547 หลังบริษัทสหรัฐชั้นนำรายงานผลประกอบการที่สูงเกินความคาดหมาย ขณะเดียวกันดัชนี FTSE ดีดตัวขึ้น 30% นับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกตกต่ำนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นกำลังคลี่คลายลง หุ้นโวดาโฟนเพิ่มขึ้น 2.9% หลังบริษัทรายงานยอดขายไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้น 9.3% แตะที่ 1.07 หมื่นล้านปอนด์ (1.77 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ด้านหุ้นบีที กรุ๊ป ผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษปิดบวก 1.3%
ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:น้ำมันดิบปิดพุ่งแตะ $68.05 เหตุนลท.เชื่อมั่นแนวโน้มศก.สดใส
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 07:38:39 น.
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 68 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้นหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกแข็งแกร่งตลอดสัปดาห์ ขณะที่ภาคเอกชนส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการที่สดใสในช่วงไตรมาสสอง
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ปิดที่ 68.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 66.85-68.08 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นปิดที่ระดับ 1.9159 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.69 เซนต์ ปิดที่ 1.7813 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.32 ดอลลาร์/บาร์เรล เจอราร์ด ริคบีย์ นักวิเคราะห์จาก Fuel First Consulting ในซิดนีย์กล่าวว่า "แม้อุปสงค์น้ำมันจะยังไม่ปรับตัวขึ้น แต่ข่าวความเคลื่อนไหวในแง่บวกทางเศรษฐกิจได้ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนส่งสัญญาซื้อขายเข้ามาในตลาดน้ำมัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี" โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้น 11% ในช่วงเวลา 9 วันที่ผ่านมาและสามารถฝ่าระดับ 9,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทเอกชนส่วนใหญ่ต่างเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด มีเพียงไมโครซอฟท์ คอร์ป, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส โค และอเมซอนดอทคอมที่รายงานผลประกอบการซบเซาและสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ยังแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ราคาน้ำมันถูกลงกว่าที่โอเปคต้องการ หลังจากที่ได้มีการปรับลดกำลังการผลิตเมื่อช่วงต้นปีเพื่อกระตุ้นให้ราคาน้ำมันดีดตัวสูงขึ้น
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะนลท.แห่เทรดตลาดหุ้น
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 07:53:00 น.
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) ท่ามกลางความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่ออกมาในแง่บวก ทำให้นักลงทุนปลีกตัวไปซื้อขายในตลาดหุ้น รวมถึงต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น
ณ เวลา 16:15 น.ตามเวลานิวยอร์ก เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ระดับ 1.4214 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับสูงสุดของวันพฤหัสบดีที่ 1.4291 ยูโร/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.2% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.76 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.92 เยน/ดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0701 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0719 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 134.70 เยน/ยูโร จากระดับ 134.30 เยน/ยูโร ด้านเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่ระดับ 1.6426 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6520 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศถึงการลดวงเงินปล่อยสินเชื่อ TAF ลงเหลือ 1 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่กำหนดไว้ในระดับ 1.25 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ในตลาดเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยบดบังการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการที่น่าผิดหวังของไมโครซอฟท์ คอร์ป และอเมซอนดอทคอม อย่างไรก็ตาม แม้เงินดอลลาร์จะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรแต่สกุลเงินดังกล่าวแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินปอนด์หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสสองที่หดตัว 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และติดลบหนัก 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ รายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนรายใหญ่ในสหรัฐช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด แต่ถึงกระนั้นยังมีนักวิเคราะห์บางกลุ่มมองว่าค่าเงินดอลลาร์จะดีดตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า เนื่องจากขณะนี้ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่รายงานตัวเลขผลประกอบการที่ซบเซาอยู่บ้างประปราย
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก:นลท.แห่เทรดตลาดหุ้น-น้ำมัน กดราคาทองคำปิดลดลง 1.70 ดอลล์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 08:45:55 น.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อขายในตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันและพากันลดการถือครองสัญญาทองคำท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงาในวันสุดท้ายของปลายสัปดาห์ หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้
สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 953.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.70 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.8750 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.5 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลงสู่ระดับ 2.5220 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.คปิดที่ 1,186.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 4.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 261.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ เดฟ เมเจอร์ นักวิเคราะห์จาก Alaron กล่าวว่า ตลาดเคลื่อนไหวในอย่างร้อนแรงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงท่ามกลางการรายงานผลประกอบการภาคเอกชนที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า สถานการณ์ต่างๆกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เคยเผชิญภาวะวิกฤตจะเริ่มกลับมามีเสถียรภาพ ปัจจัยหนุนหลายประการได้ช่วยกระตุ้นให้สัญญาโลหะมีค่าพุ่งสูงทั่วทั้งกระดานไม่ว่าจะเป็นสัญญาซื้อขายทองแดงและอลูมิเนียม แต่เมื่อนักลงทุนเริ่มมองเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจที่เคลื่อนไหวในแง่บวก พวกเขาจะเริ่มโยกย้ายเงินทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าอาทิเช่น ตลาดหุ้น หรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทน้ำมันแทน โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้นถึง 11% ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีสามารถฝ่าระดับ 9,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2552
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดตลาดพุ่ง 95.50 จุด เหตุนลท.มั่นใจศก.สหรัฐ
Monday, July 27, 2009 08:12:17
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยดัชนีทะยานขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากภาคเอกชนรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดและตลาดหุ้นวอลล์สตรีททะยานขึ้นแข็งแกร่งในรอบสัปดาห์ที่แล้วสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดพุ่งขึ้น 95.50 จุด หรือ 0.96% แตะที่ 10,040.05 จุด โบรกเกอร์กล่าวว่า ดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากภาคเอกชนรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และโกลด์แมน แซคส์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานปละกอบการของบริษัทญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ทั้งนี้ ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นเกือบทั่วทั้งกระดาน โดยหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มคลังสินค้า ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งสุด
--อินโฟเควสท์--
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับความเชื่อมั่นรายได้ไฟแนนซ์-ธุรกิจเหมือง
Monday, July 27, 2009 09:03:06
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง 10 วันทำการแล้วในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับรายได้ของบริษัทไฟแนนซ์และเหมืองแร่ ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.)ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 10,020.87 จุด เพิ่มขึ้น 76.32 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,170.73 จุด บวก 187.94 จุด ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,510.75 จุด เพิ่มขึ้น 8.16 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,008.18 บวก 34.90 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,541.82 บวก 8.39 จุดบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี MSCI Asia Pacific Index บวก 1% แตะ 109.03 จุด เมื่อเวลา 10.07 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว หุ้นโนมูระ โฮลดิ้งส์ พุ่ง 3.7% หลังจากที่นสพ.นิกเกอิรายงานว่า บริษัทมีแนวโน้มที่จะทำกำไรได้เป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ส่วนหุ้นริโอ ทินโต บริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก บวก 3.1% ในตลาดหุ้นออสเตรเลียหลังจากที่ราคานิกเกิลและอลูมิเนียมดีดตัวขึ้น ส่วนหุ้นฮิตาชิ พุ่ง 6.5% หลังจากสื่อรายงานว่า บริษัทจะเข้าเทคโอเวอร์บริษัทคู่ค้า 5 รายโตโมชิกะ คิทาโอกะ นักวิเคราะห์อาวุโสของมิซูโฮ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า คาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจกับหุ้นรายย่อยที่มีปัจจัยชี้นำการซื้อขาย นักลงทุนต่างชาติเองก็ให้ความสนใจกับธุรกิจของฮิตาชิที่มีแนวโน้มว่าการปฏิบัติการจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
--อินโฟเควสท์--
อังกฤษเผยราคาบ้านเดือนก.ค.ย่ำฐานทรงตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
Monday, July 27, 2009 09:05:07Hometrack
บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของอังกฤษเปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษประจำเดือนก.ค.ย่ำฐานทรงตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากตลาดสินเชื่อที่ตึงตัวและวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยยังคงเป็นปัจจัยลบที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยราคาบ้านโดยเฉลี่ยในอังกฤษและเวลส์อยู่ที่ 155,600 ปอนด์ (256,351 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งปรับตัวลดลง 7.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ และผลการสำรวจราคาบ้าน 8 ใน 10 พื้นที่ของอังกฤษพบว่าราคาบ้านในเดือนก.ค.ยังคงเท่ากับระดับเดียวกับเมื่อเดือนก่อน ขณะที่ราคาบ้านในกรุงลอนดอน และอีสต์ แองเกลียขยับขึ้น 0.1% "ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเปราะบาง" ริชาร์ด ดอนเนลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Hometrack กล่าว "ดังนั้น ทิศทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองจำเป็นต้องฟื้นตัวได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน"ทั้งนี้ เศรษฐกิจอังกฤษหดตัวลง 0.8% ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอุตสาหกรรมการเงินและการก่อสร้างที่ซบเซา ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษมีกำหนดเปิดเผยยอดอนุมัติเงินกู้จำนองบ้านในสัปดาห์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดอนุมัติเงินกู้จำนองบ้านจะเพิ่มขึ้น 47,000 รายในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี อย่างไรก็ตาม วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำในอังกฤษยังคงลากยาวมาถึงช่วงไตรมาส 2 ดังจะเห็นได้จากบรรยากาศด้านการให้บริการภาคธุรกิจและธนาคารที่หดตัว 4.4% จากปีก่อนหน้านี้ และแหล่งปล่อยเงินกู้ทั่วโลกต่างรายงานยอดการปรับลดมูลค่าทางบัญชีและตัวเลขขาดทุน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ปี 2550
--อินโฟเควสท์--
เงินบาทเปิดตลาด 33.98/99 แนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง
Monday, July 27, 2009 09:06:05
นักบริหารเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 33.98/99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่องจากปิดตลาดเมื่อสัปดาห์ก่อน เงินบาทยังมีแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินสกุลในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ยังมีความผันผวน ปัจจัยที่ยังต้องติดตาม ยังเป็นการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐที่มีต่อเนื่องไปถึงสัปดาห์หน้า รวมถึงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย"เงินบาทยังมีแรงกดดันให้แข็งค่าจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยต่างประเทศ และตลาดหุ้นบ้านเรา" นักบริหารเงิน กล่าวส่วนค่าเงินสกุลต่างประเทศเช้าวันนี้ เงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ที่ 94.74/77 เยน/ดอลลาร์ เงินยูโร อยู่ที่ 1.4217/20 ดอลลาร์/ยูโรแนวโน้มเงินบาทสัปดาห์นี้ คาดว่าอยู่ในกรอบ 33.80-34.20 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวที่ 33.95-34.00 บาท/ดอลลาร์
--อินโฟเควสท์--
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 37 นาทีที่แล้ว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานไต่ระดับขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยบดบังปัจจัยลบจากไมโครซอฟท์ คอร์ป และอเมซอนดอทคอม อิงค์ ซึ่งรายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่ตกต่ำลงจนสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 23.95 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 9,093.24 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.97 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 979.26 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 7.64 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 1,965.96 จุด สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 68 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้นหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกแข็งแกร่งตลอดสัปดาห์ ขณะที่ภาคเอกชนส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการที่สดใสในช่วงไตรมาสสอง สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ปิดที่ 68.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 66.85-68.08 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) ท่ามกลางความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่ออกมาในแง่บวก ทำให้นักลงทุนปลีกตัวไปซื้อขายในตลาดหุ้น รวมถึงต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ระดับ 1.4214 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับสูงสุดของวันพฤหัสบดีที่ 1.4291 ยูโร/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.2% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.76 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.92 เยน/ดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0701 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0719 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 134.70 เยน/ยูโร จากระดับ 134.30 เยน/ยูโร สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อขายในตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันและพากันลดการถือครองสัญญาทองคำท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงาในวันสุดท้ายของปลายสัปดาห์ หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 953.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.70 ดอลลาร์ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากที่โวดาโฟน กรุ๊ป บริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกที่สดใส ซึ่งช่วยหนุนให้ดัชนี FTSE ไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 16.81จุด หรือ 0.4 % แตะที่ 4,576.61 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์คาด GDP ไตรมาส 2 สหรัฐหดตัวน้อยลง หลังรัฐบาลใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 12 นาทีที่แล้ว
นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐจะหดตัวน้อยลง เนื่องจากตัวเลขการค้าและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐสามารถชดเชยการทรุดตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐจะหดตัวลง 1.5% หลังจากทรุดตัวลง 5.5% ในไตรมาสแรก โจเอล นารอฟฟ์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Naroff Economic Advisors Inc "ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐเริ่มทุเลาลง เราคาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มหดตัวน้อยลงในไตรมาสที่ 2 และจากนั้นจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น โดยเฉพาะยอดขายบ้านที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันถึง 3 เดือน นอกจากนี้ ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลกจะช่วยให้ยอดส่งออกของสหรัฐกระเตื้องขึ้น และจะทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ค่อยๆฟื้นตัวขึ้น" ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.6% แตะที่ 4.89 ล้านยูนิตต่อปี จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 4.72 ล้านยูนิตต่อปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 4.84 ล้านยูนิต โดยยอดขายบ้านเดือนมิ.ย.ของสหรัฐทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เพราะได้แรงหนุนจากมาตรการช่วยเหลือด้านภาษี ดอกเบี้ยเงินกู้ระดับต่ำ และราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง
เกาหลีใต้เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.พุ่งแรงสุดในรอบ 7 ปีหลังรบ.ใช้แผนฟื้นเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 41 นาทีที่แล้ว
ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 109 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 106 จุด เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่ถูกปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ได้ช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง
ธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในระดับสูงกว่า 100 จุดบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นลบ เศรษฐกิจเกาหลีใต้ไตรมาสสองขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากยอดส่งออกและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนดีดตัวขึ้น เศรษฐกิจเกาหลีใต้ไตรมาสสอง ขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี เพราะได้ปัจจัยบวกจากการใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสสอง เพิ่มขึ้น 2.3% จากช่วงไตรมาสแรกที่ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.1% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ที่.2% อีกทั้งยังเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 ซึ่งโตในระดับ 2.6% แต่หากเทียบเป็นรายปี GDP ลดลง 2.5% เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียที่เศรษฐกิจดีดตัวขึ้นเช่นเดียวกับจีนและสิงคโปร์ หลังจากที่เกิดวิกฤตค่าเงินตกต่ำ 26% เมื่อปีที่แล้วจากความวิตกกังวลว่าบริษัทเอกชนจะไม่สามารถชำระหนี้ต่างประเทศได้ แต่เกาหลีใต้ก็สามารถหาทางออกจากวิกฤตดังกล่าวด้วยการทำข้อตกลงสว็อปค่าเงินดอลลาร์กับสหรัฐ และอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคาร รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายและจัดตั้งเงินทุนให้ธนาคารพาณิชย์และปรับลดดอกเบี้ย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
ญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยจากดินถล่มและน้ำท่วมภาคตะวันตกหลังฝนตกหนักต่อเนื่อง
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 16 ชั่วโมง 7 นาทีที่แล้ว
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนภัยจากเหตุดินถล่มและน้ำท่วมในภาคตะวันตก หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่องวันนี้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 7 ราย สูญหายอีก 2 ราย ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายทาโร่ อาโสะ นายกฯญี่ปุ่นได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปยังเมืองโฮฟุ เขตยามากูจิ เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย หลังจากที่ฝนกลงมาอย่างหนักจนเกิดเหตุโคลนถล่มจนมีผู้เสียชีวิต 6 ราย นอกจากนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยายังได้เตือนประชาชนให้ระวังภัยจากฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่มในเขตฟูกุโอกะ นางาซากิ ซากะ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของคิวชู ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของฟูกุโอกะออกประกาศแนะนำให้ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำกว่า 2 หมื่นครัวเรือนอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำอาจจะสูงขึ้นจนล้นทะลักท่วมพื้นที่ได้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 23.95 จุด แม้ไมโครซอฟท์-อเมซอนเผยผลกำไรตกต่ำ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 06:42:00 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานไต่ระดับขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยบดบังปัจจัยลบจากไมโครซอฟท์ คอร์ป และอเมซอนดอทคอม อิงค์ ซึ่งรายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่ตกต่ำลงจนสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 23.95 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 9,093.24 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.97 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 979.26 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 7.64 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 1,965.96 จุด บรรยากาศการซื้อขายในวันนี้ค่อนข้างผันผวน แต่ตลาดสามารถพุ่งปิดเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ต่อเนื่องจากที่ขยายตัวแข็งแกร่งเมื่อวันก่อนขานรับยอดขายบ้านมือสองในเดือนมิ.ย.ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และช่วยผลักดันดัชนีทะยานฝ่าระดับ 9,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวกับคณะกรรมการกำกับดูแลภาคการเงินว่าได้มีการปรับลดวงเงินกู้ฉุกเฉินลง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าจุดต่ำสุดของวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำสิ้นสุดลงแล้ว ขณะเดียวกัน ในระยะนี้บริษัทเอกชนหลายแห่งสามารถรายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาดเพราะใช้มาตรการปรับลดต้นทุนอย่างเต็มสูบ ขณะที่รายได้ของบริษัทบางแห่งยังคงซบเซาเพราะผู้บริโภคเลือกที่จะออมเงินมากกว่านำเงินไปจับจ่ายใช้สอย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงนำผลประกอบการภาคเอกชนที่ดีขึ้นเป็นเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวขึ้นได้ช่วงปลายปีนี้ คีธ วอลเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Artio Global Equity Fund กล่าวว่า "เศรษฐกิจกำลังเดินมาถึงจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่ได้มีแค่ช่วงขาลงเพียงอย่างเดียว ดังนั้นสถานการณ์ต่างๆจะเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง" อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก of Stuart Frankel & Co. เตือนว่า แม้ดัชนีจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ตลาดยังคงต้องจับตาการายงานตัวเลขผลประกอบการของผู้ค้าปลีกที่จะบ่งบอกถึงสถานะทางการเงินของผู้บริโภคที่แท้จริง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สร้างความหวั่นวิตกในตลาด โดยล่าสุดสหรัฐได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ที่ลดลงสู่ระดับ 66 จุด จากระดับ 70.8 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ หุ้นเอ็กซ์ซอนโมบิล และโคโนโคฟิลลิปส์ นำหุ้นกลุ่มพลังงานปิดเคลื่อนไหวในแดนบวก ขณะที่หุ้นไมโครซอฟท์ดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่ต้นปีที่ระดับ 8.3% หลังบริษัเผยผลประกอบการที่ร่วงหนักเกินคาด ขณะที่อเมซอนดอทคอมรายงานยอดขายที่ลดลงเช่นกันจนกดดันให้หุ้นตกลงเกือบ 8%
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 16.81 จุด ขานรับผลประกอบการโวดาโฟน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 08:59:27 น.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากที่โวดาโฟน กรุ๊ป บริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกที่สดใส ซึ่งช่วยหนุนให้ดัชนี FTSE ไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 16.81จุด หรือ 0.4 % แตะที่ 4,576.61 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ริชาร์ด ฮันเตอร์ นักวิเคราะห์จาก Hargreaves Lansdown Stockbrokers กล่าวว่า "การเปิดเผยผลประกอบการของโวดาโฟนช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายและหนุนให้ตลาดปิดในแดนบวกได้สำเร็จ" ทั้งนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 พร้อมทำสถิติเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2547 หลังบริษัทสหรัฐชั้นนำรายงานผลประกอบการที่สูงเกินความคาดหมาย ขณะเดียวกันดัชนี FTSE ดีดตัวขึ้น 30% นับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกตกต่ำนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นกำลังคลี่คลายลง หุ้นโวดาโฟนเพิ่มขึ้น 2.9% หลังบริษัทรายงานยอดขายไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้น 9.3% แตะที่ 1.07 หมื่นล้านปอนด์ (1.77 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ด้านหุ้นบีที กรุ๊ป ผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษปิดบวก 1.3%
ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:น้ำมันดิบปิดพุ่งแตะ $68.05 เหตุนลท.เชื่อมั่นแนวโน้มศก.สดใส
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 07:38:39 น.
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 68 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้นหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกแข็งแกร่งตลอดสัปดาห์ ขณะที่ภาคเอกชนส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการที่สดใสในช่วงไตรมาสสอง
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ปิดที่ 68.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 66.85-68.08 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นปิดที่ระดับ 1.9159 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.69 เซนต์ ปิดที่ 1.7813 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.32 ดอลลาร์/บาร์เรล เจอราร์ด ริคบีย์ นักวิเคราะห์จาก Fuel First Consulting ในซิดนีย์กล่าวว่า "แม้อุปสงค์น้ำมันจะยังไม่ปรับตัวขึ้น แต่ข่าวความเคลื่อนไหวในแง่บวกทางเศรษฐกิจได้ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนส่งสัญญาซื้อขายเข้ามาในตลาดน้ำมัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี" โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้น 11% ในช่วงเวลา 9 วันที่ผ่านมาและสามารถฝ่าระดับ 9,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทเอกชนส่วนใหญ่ต่างเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด มีเพียงไมโครซอฟท์ คอร์ป, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส โค และอเมซอนดอทคอมที่รายงานผลประกอบการซบเซาและสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ยังแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ราคาน้ำมันถูกลงกว่าที่โอเปคต้องการ หลังจากที่ได้มีการปรับลดกำลังการผลิตเมื่อช่วงต้นปีเพื่อกระตุ้นให้ราคาน้ำมันดีดตัวสูงขึ้น
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะนลท.แห่เทรดตลาดหุ้น
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 07:53:00 น.
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) ท่ามกลางความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่ออกมาในแง่บวก ทำให้นักลงทุนปลีกตัวไปซื้อขายในตลาดหุ้น รวมถึงต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น
ณ เวลา 16:15 น.ตามเวลานิวยอร์ก เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ระดับ 1.4214 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับสูงสุดของวันพฤหัสบดีที่ 1.4291 ยูโร/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.2% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.76 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.92 เยน/ดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0701 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0719 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 134.70 เยน/ยูโร จากระดับ 134.30 เยน/ยูโร ด้านเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่ระดับ 1.6426 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6520 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศถึงการลดวงเงินปล่อยสินเชื่อ TAF ลงเหลือ 1 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่กำหนดไว้ในระดับ 1.25 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ในตลาดเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยบดบังการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการที่น่าผิดหวังของไมโครซอฟท์ คอร์ป และอเมซอนดอทคอม อย่างไรก็ตาม แม้เงินดอลลาร์จะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรแต่สกุลเงินดังกล่าวแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินปอนด์หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสสองที่หดตัว 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และติดลบหนัก 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ รายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนรายใหญ่ในสหรัฐช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด แต่ถึงกระนั้นยังมีนักวิเคราะห์บางกลุ่มมองว่าค่าเงินดอลลาร์จะดีดตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า เนื่องจากขณะนี้ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่รายงานตัวเลขผลประกอบการที่ซบเซาอยู่บ้างประปราย
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก:นลท.แห่เทรดตลาดหุ้น-น้ำมัน กดราคาทองคำปิดลดลง 1.70 ดอลล์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009 08:45:55 น.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อขายในตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันและพากันลดการถือครองสัญญาทองคำท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงาในวันสุดท้ายของปลายสัปดาห์ หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้
สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 953.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.70 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.8750 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.5 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลงสู่ระดับ 2.5220 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.คปิดที่ 1,186.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 4.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 261.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ เดฟ เมเจอร์ นักวิเคราะห์จาก Alaron กล่าวว่า ตลาดเคลื่อนไหวในอย่างร้อนแรงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงท่ามกลางการรายงานผลประกอบการภาคเอกชนที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า สถานการณ์ต่างๆกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เคยเผชิญภาวะวิกฤตจะเริ่มกลับมามีเสถียรภาพ ปัจจัยหนุนหลายประการได้ช่วยกระตุ้นให้สัญญาโลหะมีค่าพุ่งสูงทั่วทั้งกระดานไม่ว่าจะเป็นสัญญาซื้อขายทองแดงและอลูมิเนียม แต่เมื่อนักลงทุนเริ่มมองเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจที่เคลื่อนไหวในแง่บวก พวกเขาจะเริ่มโยกย้ายเงินทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าอาทิเช่น ตลาดหุ้น หรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทน้ำมันแทน โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้นถึง 11% ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีสามารถฝ่าระดับ 9,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2552
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดตลาดพุ่ง 95.50 จุด เหตุนลท.มั่นใจศก.สหรัฐ
Monday, July 27, 2009 08:12:17
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยดัชนีทะยานขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากภาคเอกชนรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดและตลาดหุ้นวอลล์สตรีททะยานขึ้นแข็งแกร่งในรอบสัปดาห์ที่แล้วสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดพุ่งขึ้น 95.50 จุด หรือ 0.96% แตะที่ 10,040.05 จุด โบรกเกอร์กล่าวว่า ดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากภาคเอกชนรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และโกลด์แมน แซคส์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานปละกอบการของบริษัทญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ทั้งนี้ ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นเกือบทั่วทั้งกระดาน โดยหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มคลังสินค้า ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งสุด
--อินโฟเควสท์--
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับความเชื่อมั่นรายได้ไฟแนนซ์-ธุรกิจเหมือง
Monday, July 27, 2009 09:03:06
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง 10 วันทำการแล้วในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับรายได้ของบริษัทไฟแนนซ์และเหมืองแร่ ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.)ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 10,020.87 จุด เพิ่มขึ้น 76.32 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,170.73 จุด บวก 187.94 จุด ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,510.75 จุด เพิ่มขึ้น 8.16 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,008.18 บวก 34.90 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,541.82 บวก 8.39 จุดบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี MSCI Asia Pacific Index บวก 1% แตะ 109.03 จุด เมื่อเวลา 10.07 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว หุ้นโนมูระ โฮลดิ้งส์ พุ่ง 3.7% หลังจากที่นสพ.นิกเกอิรายงานว่า บริษัทมีแนวโน้มที่จะทำกำไรได้เป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ส่วนหุ้นริโอ ทินโต บริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก บวก 3.1% ในตลาดหุ้นออสเตรเลียหลังจากที่ราคานิกเกิลและอลูมิเนียมดีดตัวขึ้น ส่วนหุ้นฮิตาชิ พุ่ง 6.5% หลังจากสื่อรายงานว่า บริษัทจะเข้าเทคโอเวอร์บริษัทคู่ค้า 5 รายโตโมชิกะ คิทาโอกะ นักวิเคราะห์อาวุโสของมิซูโฮ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า คาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจกับหุ้นรายย่อยที่มีปัจจัยชี้นำการซื้อขาย นักลงทุนต่างชาติเองก็ให้ความสนใจกับธุรกิจของฮิตาชิที่มีแนวโน้มว่าการปฏิบัติการจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
--อินโฟเควสท์--
อังกฤษเผยราคาบ้านเดือนก.ค.ย่ำฐานทรงตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
Monday, July 27, 2009 09:05:07Hometrack
บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของอังกฤษเปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษประจำเดือนก.ค.ย่ำฐานทรงตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากตลาดสินเชื่อที่ตึงตัวและวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยยังคงเป็นปัจจัยลบที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยราคาบ้านโดยเฉลี่ยในอังกฤษและเวลส์อยู่ที่ 155,600 ปอนด์ (256,351 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งปรับตัวลดลง 7.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ และผลการสำรวจราคาบ้าน 8 ใน 10 พื้นที่ของอังกฤษพบว่าราคาบ้านในเดือนก.ค.ยังคงเท่ากับระดับเดียวกับเมื่อเดือนก่อน ขณะที่ราคาบ้านในกรุงลอนดอน และอีสต์ แองเกลียขยับขึ้น 0.1% "ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเปราะบาง" ริชาร์ด ดอนเนลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Hometrack กล่าว "ดังนั้น ทิศทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองจำเป็นต้องฟื้นตัวได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน"ทั้งนี้ เศรษฐกิจอังกฤษหดตัวลง 0.8% ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอุตสาหกรรมการเงินและการก่อสร้างที่ซบเซา ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษมีกำหนดเปิดเผยยอดอนุมัติเงินกู้จำนองบ้านในสัปดาห์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดอนุมัติเงินกู้จำนองบ้านจะเพิ่มขึ้น 47,000 รายในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี อย่างไรก็ตาม วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำในอังกฤษยังคงลากยาวมาถึงช่วงไตรมาส 2 ดังจะเห็นได้จากบรรยากาศด้านการให้บริการภาคธุรกิจและธนาคารที่หดตัว 4.4% จากปีก่อนหน้านี้ และแหล่งปล่อยเงินกู้ทั่วโลกต่างรายงานยอดการปรับลดมูลค่าทางบัญชีและตัวเลขขาดทุน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ปี 2550
--อินโฟเควสท์--
เงินบาทเปิดตลาด 33.98/99 แนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง
Monday, July 27, 2009 09:06:05
นักบริหารเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 33.98/99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่องจากปิดตลาดเมื่อสัปดาห์ก่อน เงินบาทยังมีแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินสกุลในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ยังมีความผันผวน ปัจจัยที่ยังต้องติดตาม ยังเป็นการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐที่มีต่อเนื่องไปถึงสัปดาห์หน้า รวมถึงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย"เงินบาทยังมีแรงกดดันให้แข็งค่าจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยต่างประเทศ และตลาดหุ้นบ้านเรา" นักบริหารเงิน กล่าวส่วนค่าเงินสกุลต่างประเทศเช้าวันนี้ เงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ที่ 94.74/77 เยน/ดอลลาร์ เงินยูโร อยู่ที่ 1.4217/20 ดอลลาร์/ยูโรแนวโน้มเงินบาทสัปดาห์นี้ คาดว่าอยู่ในกรอบ 33.80-34.20 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวที่ 33.95-34.00 บาท/ดอลลาร์
--อินโฟเควสท์--
Comments
Post a Comment