News Update : 31/07/2009

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 83.74 จุด ขานรับผลประกอบการ,ข้อมูลเศรษฐกิจสดใส
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 44 นาทีที่แล้ว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงโมโตโรล่า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 83.74 จุด หรือ 0.92% แตะที่ 9,154.46 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 11.60 จุด หรือ 1.19% แตะที่ 986.75 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 16.54 จุด หรือ 0.84% แตะที่ 1,984.30 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.36 พันล้านหุ้น มีจำนวหนุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.56 พันล้านหุ้น จอห์น เมอร์ริแมน นักวิเคราะห์จาก Merriman Curhan Ford ในเมืองซานฟรานซิสโก กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงโมโตโรล่า โดยเมื่อวานนี้ โมโตโรล่า อิงค์ ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือของสหรัฐ รายงานผลประกอบการไตรมาสสองซึ่งสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้เหนือความคาดหมาย หลังจากที่ขาดทุนมาหลายไตรมาส โดยเป็นผลมาจากการลดต้นทุนและยอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสแรก โมโตโรล่าระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัททำกำไรได้ 26 ล้านดอลลาร์ หรือ 1 เซนต์ต่อหุ้น ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 4 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน โดยผลกำไรล่าสุดของโมโตโรล่าดีกว่าที่บริษัทเองได้คาดการณ์เอาไว้ และเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าบริษัทจะขาดทุน 4 เซนต์ต่อหุ้น เมอร์ริแมนกล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในช่วงขาขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าผลประกอบการที่สดใสของภาคเอกชนจะช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวเร็วกกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเมื่อไม่นานมานี้โกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, อินเทล คอร์ป และแคทเทอร์ พิลลาร์ ต่างรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุในรายงานครั้งล่าสุดว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพในหลายภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะเขตนอร์ธอีสต์และมิดเวสต์ ซึ่งทำให้เฟดคาดว่าจะช่วยหนุนภาคเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ "แม้เศรษฐกิจยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง แต่ภาวะถดถอยเริ่มทุเลาลง และเศรษฐกิจเริ่มกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากที่หดตัวอย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายเดือน โดยในหลายภูมิภาคของสหรัฐรวมถึงเขตนอร์ธอีสต์และมิดเวสต์นั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้องขึ้นและเริ่มมีเสถียรภาพขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้เราคาดหวังว่าโอกาสที่จะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ใกล้เข้ามาแล้ว" เฟดกล่าวในรายงาน ทั้งนี้ หุ้นโมโตโรล่าปิดพุ่ง 9.4% หุ้นกู๊ดเยียร์ปิดบวก 14.2% หุ้นดาว เคมิคอล ปิดบวก 6.2% ส่วนหุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ปิดบวก 6.9% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ส่วนบริษัทอื่นๆที่รายงานผลประกอบการดีเกินคาดได้แก่ บริษัท มาสเตอร์คาร์ด อิงค์ ซึ่งราคาหุ้นปิดพุ่ง 3% และบริษัทไทโค อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งราคาหุ้นปิดบวก 2.9%

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร,ปอนด์ หลังข้อมูลศก.สดใสหนุนนลท.แห่เทรดตลาดหุ้น
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 31 นาทีที่แล้ว
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายดอลลาร์และหันเข้าเทรดในตลาดหุ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสและภาคเอกชนของสหรัฐรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ ดอลลาร์อ่อนแอลงหลังจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าจีนจะควบคุมการปล่อยสินเชื่อ ลดน้อยลง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.21% เมื่อเทียบกับยูโรแตะที่ 1.4064 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4035 ยูโร/ดอลลาร์ และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.66% แตะที่ 1.6485 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6377 ปอนด์/ดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.46% เมื่อเทียบกับเยนที่ 95.470 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 95.030 เยน/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0884 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0877 ฟรังค์/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.87% แตะระดับ 0.8238 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย 0.8167 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.03% แตะที่ 0.6508 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6510 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยเมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 25,000 ราย แตะระดับ 584,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ค. แต่อัตราเฉลี่ยในรอบ 4 สัปดาห์ร่วงลง 8,250 ราย สู่ 559,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.เป็นต้นมา นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงกดดันจากจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าจีนจะควบคุมการปล่อยสินเชื่อ ลดน้อยลง หลังจาก เคนเน็ธ ฟิสเชอร์ มหาเศรษฐีนักลงทุนซึ่งเข้าลงทุนในตลาดหุ้นจีนสูงถึง 900 ล้านดอลลาร์ และเป็นผู้บริหารบริษัท ฟิสเชอร์ อินเวสท์เมนท์ ในเมืองวู๊ดไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นจีนจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากดิ่งลงหนักสุดนับเดือนพ.ย.เป็นต้นมา โดยคาดว่าตลาดหุ้นจีนจะปิดศักราชปีพ.ศ.2552 ด้วยการเดินหน้าขึ้น เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลจีนจะจำกัดการปล่อยเงินกู้ของแบงค์พาณิชย์นั้น เป็นข่าวลือที่ไม่ตรงกับความจริง ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 2 เดือน พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันข้างหน้า เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์กำลังสกัดกั้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ นายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์กล่าวภายหลังจากตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมว่า "การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มของสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ว่าจะอ่อนค่าลงมากน้อยเพียงใด ถ้าสกุลเงินยังไม่อ่อนค่าลง กระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจก็จะตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเราคงต้องหันมาประเมินการกำหนดนโยบายการเงินใหม่"

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $3.59 รับผลประกอบการเอกชน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 23 นาทีที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 4 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรอย่างต่อเนื่องหลังจากภาคเอกชนของสหรัฐรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด รวมถึงฮอนด้า, โมโตโรล่า และบีที กรุ๊ป โดยนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันแม้กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเหนือการคาดการณ์ก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) พุ่งขึ้น 3.59 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 66.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 13.61 เซนต์ หรือ 7.3% แตะที่ 1.9911 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 9.72 เซนต์ ปิดที่ 1.7685 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 3.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.11 ดอลลาร์/บาร์เรล สตีเฟ่น ชอร์ค นักวิเคราะห์ชื่อดังในแวดวงพลังงานของสหรัฐกล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า "ตลาดน้ำมันดิบเคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับดีมานด์-ซัพพลาย แต่อ่อนไหวไปตามข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการภาคเอกชน ซึ่งความเคลื่อนไหวเช่นนี้เป็นผลมาจากการเก็งกำไรโดยอิงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นแรงจูงใจ" นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจาก ฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น รายงานผลกำไรสุทธิ 7.56 พันล้านเยนในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.ปีนี้ ดิ่งลง 95.6% เนื่องจากความต้องการยานยนต์หดตัวลงทั่วโลก แต่กำไรไตรมาสแรกของฮอนด้ายังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจขาดทุน ขณะที่โมโตโรล่า อิงค์ ทำกำไรได้ 26 ล้านดอลลาร์ หรือ 1 เซนต์ต่อหุ้น ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 4 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน โดยผลกำไรล่าสุดของโมโตโรล่าดีกว่าที่บริษัทเองได้คาดการณ์เอาไว้ และเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าบริษัทจะขาดทุน 4 เซนต์ต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง เอ็กซอน โมบิล มีกำไรไตรมาส 2 ดิ่งลง 66% ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ รอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป มีรายได้สุทธิไตรมาส 2 ร่วงลง 67% แตะระดับ 3.8 พันล้านดอลลาร์ และบีพีรายงานว่าผลกำไรไตรมาส 2 ดิ่งลง 53% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอยได้ฉุดดีมานด์เชื้อเพลิงหดตัวลงด้วย สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 24 ก.ค.พุ่งขึ้น 5.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 347.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 162.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงซื้อหุ้นทองคำปิดบวก $7.70
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 2 นาทีที่แล้ว
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยูโร นอกจากนี้ นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพราะเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสและผลประกอบการที่ดีเกินคาดของภาคเอกชน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 934.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 7.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 928.40-937.00 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.4850 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 22.70 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 8.65 เซนต์ หรือ 3.5% ปิดที่ 2.5640 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนต.ค.ปิดที่ 1,189.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 16.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 259.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.85 ดอลลาร์ สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และผลประกอบกอบการที่ดีเกินคาดของภาคเอกชน รวมถึงโมโตโรล่า อิงค์ ที่สามารถทำกำไรได้ 26 ล้านดอลลาร์ หรือ 1 เซนต์ต่อหุ้น ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 4 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 25,000 ราย แตะระดับ 584,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ค. แต่อัตราเฉลี่ยในรอบ 4 สัปดาห์ร่วงลง 8,250 ราย สู่ 559,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.เป็นต้นมา

กองทุนญี่ปุ่นเพิ่มลงทุนในหุ้น เชื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังส่งผลทั่วโลก
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ -- 3 ชั่วโมง 5 นาทีที่แล้ว
ผู้จัดการกองทุนญี่ปุ่นเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นทั่วโลกในเดือนกรกฎาคม จากที่เดือนก่อนหน้าให้น้ำหนักต่อหุ้นต่ำสุดในรอบ 6 ปี ทั้งนี้เพราะมีความหวังว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวเมื่อแผนกระตุ้นการใช้จ่ายเงินส่งผลไปทั่วโลก

โมโตโรล่าพลิกทำกำไรเหนือความคาดหมายในไตรมาสสอง หลังลดต้นทุน-ยอดขายเพิ่ม
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 13 ชั่วโมง 8 นาทีที่แล้ว
โมโตโรล่า อิงค์ ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือของสหรัฐ รายงานผลประกอบการไตรมาสสองซึ่งสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้เหนือความคาดหมาย หลังจากที่ขาดทุนมาหลายไตรมาส โดยเป็นผลมาจากการลดต้นทุนและยอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสแรก
โมโตโรล่าระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัททำกำไรได้ 26 ล้านดอลลาร์ หรือ 1 เซนต์ต่อหุ้น ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 4 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ผลกำไรล่าสุดของโมโตโรล่าดีกว่าที่บริษัทเองได้คาดการณ์เอาไว้ และเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าบริษัทจะขาดทุน 4 เซนต์ต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม รายได้ของโมโตโรล่าร่วงลง 32% แตะ 5.5 พันล้าน ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.6 พันล้านดอลลาร์อยู่เล็กน้อย ส่วนยอดขายโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 14.8 ล้านเครื่องในไตรมาสสอง เพิ่มขึ้นจาก 14.7 ล้านเครื่องในไตรมาสแรก ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โมโตโรล่ากล่าวว่าบริษัทไม่ได้คาดหวังว่าจะกลับมาทำกำไรได้ในปีนี้ และเพื่อเป็นการลดต้นทุน เกร๊ก บราวน์ และ ซานเจย์ จฮา ซีอีโอร่วม จึงได้ประกาศแผนการปลดพนักงาน 4,000 คนเมื่อเดือนม.ค.

ซิตี้กรุ๊ปเตรียมขายนิกโก แอสเส็ท เมเนจเมนท์ ให้ซูมิโตโม่ ทรัสต์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 14 ชั่วโมง 20 นาทีที่แล้ว
ซูมิโตโม่ ทรัสต์ แอนด์ แบงกิ้ง ตกลงซื้อกิจการนิกโก แอสเส็ท แมเนจเมนท์ บริษัทบริหารสินทรัพย์ในเครือของซิตี้กรุ๊ป มูลค่า 1.12 แสนล้านเยน โดยซูมิโตโม่ได้ออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุน 1.09 แสนล้านเยน เตรียมไว้สำหรับการซื้อกิจการครั้งนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นิกโก แอสเส็ท มีสินทรัพย์มูลค่า 8.8 ล้านล้านเยน ซึ่งการซื้อกิจการดังกล่าวจะทำให้ซูมิโตโม่ ทรัสต์ กลายเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น การขายกิจการของนิกโก แอสเส็ท แมเนจเมนท์ ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับโครงสร้างธุรกิจของซิตี้กรุ๊ปที่ต้องการกำจัดธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัทออกไป ก่อนหน้านี้ ซิตี้กรุ๊ปตัดสินใจขายธุรกิจโบรกเกอร์ในเครือคือ นิกโก คอร์เดียล ซิเคียวริตีส์ และธุรกิจส่วนหนึ่งของนิกโก ซิตี้กรุ๊ป ให้แก่ซูมิโตโม่ มิตซุย ไฟแนนเชียล กรุ๊ป

ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจยุโรปดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 15 ชั่วโมง 4 นาทีที่แล้ว
ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ หรือ ยูโรโซน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 76 จุดในเดืองก.ค. นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว และยังเป็นสถิติที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจุดต่ำสุดของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในรอบกว่า 60 ปีอาจจะสิ้นสุดลงแล้ว
นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเดือนก.ค.จะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 75 จุด จากระดับ 73.2 จุดในเดือนมิ.ย. เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณของการฟื้นตัว ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น ขณะที่บริษัทชั้นนำ อาทิ อัลคาเทล-ลูเซนท์ไปจนถึงฮอนด้า มอเตอร์ ต่างก็รายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ทางด้านมาร์ติน แวน ไลเอท นักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็นจี กรุ๊ป กล่าวว่า เรากำลังเข้าใกล้สู่จุดสิ้นสุดของภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว แม้ว่าจะยังมีปัจจัยเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถดถอยอีกครั้งอยู่ก็ตาม อัลคาเทล-ลูเซนท์ ซัพพลายเออร์เครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานรายใหญ่สุดของโลก สามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ไตรมาส เนื่องจากบริษัทได้ลดต้นทุนในด้านต่างๆ โดยบริษัทมีรายได้สุทธิไตรมาส 2 มูลค่า 14 ล้านยูโร หรือ 19.7 ล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขาดทุนปีที่แล้วที่ 1.10 พันล้านยูโร สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดการณ์ว่า จะขาดทุน 251 ล้านยูโร ด้านธนาคารกลางยุโรปก็คาดว่า เศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวได้ในช่วงกลางปีหน้า หลังจากที่ธนาคารได้อัดฉีดเงินทุนเข้าตลาดเพื่อหนุนให้มีการปล่อยเงินกู้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 1%

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดพุ่ง 84 จุดหลังอังกฤษเผยราคาบ้านพุ่งติดต่อ 3 เดือน
Friday, July 31, 2009 08:08:54
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัท บีที กรุ๊ป และโรลส์-รอยซ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุจากรายงานราคาบ้านในอังกฤษเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่งขึ้น 84.08 จุด หรือ 1.85% แตะที่ 4,631.61 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,547.53-4,646.86 จุดภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนคึกคักขึ้น หลังจากบีที กรุ๊ป บริษัทผู้ให้บริการด้านโทรศัพท์พื้นฐานรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษรายงานผลกำไรไตรมาสแรกที่ปรับตัวลดลง หลังบริษัทแบกรับต้นทุนในการปรับโครงสร้างองค์กร ขณะที่อุปสงค์บางกลุ่มธุรกิจซบเซา โดยกำไรสุทธิในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.ร่วงลงสู่ระดับ 214 ล้านปอนด์ (352 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 381 ล้านปอนด์ในปีก่อน ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 1.1% แตะที่ 5.24 พันล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบีทีนับว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากเนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้ รายงานว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.ค. เนื่องจากขาดแคลนอุปทาน หลังจากที่จำนวนบ้านสำหรับซื้อขายในตลาดมีจำนวนลดลง โดยราคาบ้านโดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 1.3% แตะ 158,871 ปอนด์ (260,000 ดอลลาร์) ในเดือนก.ค. หลังจากที่บวก 1% ในเดือนมิ.ย. ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่าราคาบ้านจะปรับขึ้นเพียง 0.2%รายงานดังกล่าวเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์อังกฤษอาจเริ่มฟื้นตัวแล้ว หลังเศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงสุดในรอบกว่า 30 ปี โดยในสัปดาห์หน้าธนาคารกลางอังกฤษจะตัดสินใจว่าจะดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรต่อไปหรือไม่ ทั้งนี้ หุ้นบีทีทะยานขึ้น 13% หุ้นโรลส์-รอยซ์ปิดบวก 8.7% หุ้นแอสตราเซเนก้าปิดพุ่ง 1.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดบวก 5.2% และหุ้นริโอ ทินโต ปิดบวก 7.2%
--อินโฟเควสท์--

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิพุ่ง 121.55 จุดเช้านี้ ขานรับกำไรเอกชน
Friday, July 31, 2009 08:28:36
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ โดยดัชนีทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากบริษัทหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส นอกจากนี้ เงินเยนที่อ่อนตัวลงและตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นโตเกียวทะยานขึ้นในเช้านี้ด้วยสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้น 121.55 จุด หรือ 1.20% แตะที่ระดับ 10,286.76 จุดโบรกเกอร์กล่าวว่าตลาดหุ้นโตเกียวได้รับแรงหนุนหลังจากบริษัท โมโตโรล่า อิงค์ เปิดเผยว่าบริษัทสามารถทำกำไรได้ 26 ล้านดอลลาร์ หรือ 1 เซนต์ต่อหุ้น ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 4 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน โดยผลกำไรล่าสุดของโมโตโรล่าดีกว่าที่บริษัทเองได้คาดการณ์เอาไว้ และเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าบริษัทจะขาดทุน 4 เซนต์ต่อหุ้น
--อินโฟเควสท์--

ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 1% ตามตลาดหุ้นเอเชีย
Friday, July 31, 2009 08:45:45
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียหลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 1% แตะ 3,354.68 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้น บวก 0.87% แตะ 13,387.88 จุด
--อินโฟเควสท์--

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
Friday, July 31, 2009 09:00:00
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงโมโตโรล่า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือนดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 83.74 จุด หรือ 0.92% แตะที่ 9,154.46 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 11.60 จุด หรือ 1.19% แตะที่ 986.75 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 16.54 จุด หรือ 0.84% แตะที่ 1,984.30 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 4 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรอย่างต่อเนื่องหลังจากภาคเอกชนของสหรัฐรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด รวมถึงฮอนด้า, โมโตโรล่า และบีที กรุ๊ป โดยนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันแม้กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเหนือการคาดการณ์ก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) พุ่งขึ้น 3.59 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 66.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยูโร นอกจากนี้ นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพราะเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสและผลประกอบการที่ดีเกินคาดของภาคเอกชนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 934.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 7.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 928.40-937.00 ดอลลา
ร์-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายดอลลาร์และหันเข้าเทรดในตลาดหุ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสและภาคเอกชนของสหรัฐรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ ดอลลาร์อ่อนแอลงหลังจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าจีนจะควบคุมการปล่อยสินเชื่อ ลดน้อยลงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.21% เมื่อเทียบกับยูโรแตะที่ 1.4064 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4035 ยูโร/ดอลลาร์ และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.66% แตะที่ 1.6485 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6377 ปอนด์/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัท บีที กรุ๊ป และโรลส์-รอยซ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุจากรายงานราคาบ้านในอังกฤษเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่งขึ้น 84.08 จุด หรือ 1.85% แตะที่ 4,631.61 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,547.53-4,646.86 จุด
--อินโฟเควสท์--

Comments