ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ผลประกอบการวอล-มาร์ท หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 36.58 จุด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 55 นาทีที่แล้ว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดถูกสกัดลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 36.58 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 9,398.19 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.92 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 1,012.73 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่ง 10.63 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 2,009.35 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 777 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 1,999 ต่อ 1,036 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.01 พันล้านหุ้น คีธ สปริงเกอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Capital Financial Advisory Services กล่าวกับเอพีว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการที่เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทั้งในส่วนของภาคครัวเรือน และภาคเอกชน นอกจากนี้ เฟดยืนยันว่าจะขยายเวลาการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ออกไปจนถึงเดือนต.ค. ซึ่งเดิมกำหนดไว้ที่เดือนก.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่าบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่สุดของโลก รายงานผลกำไรไตรมาสสองที่ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 88 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 87 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 85 เซนต์ต่อหุ้น วอล-มาร์ทยังได้ปรับเพิ่มแนวโน้มผลกำไรปีนี้เป็น 3.50 - 3.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากเดิมที่ประเมินไว้ 3.45 - 3.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น เนื่องจากเชื่อว่ามาตรการลดต้นทุนที่บริษัทดำเนินการจะส่งผล และเชื่อว่าวอล-มาร์ทจะสามารถดึงดูดลูกค้าที่กำลังรัดเข็มขัดมาจากคู่แข่งได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนผิดหวังต่อรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ลดลง 0.1% ส่วนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% และกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4,000 ราย แตะที่ 558,000 ราย จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 554,000 ราย และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 545,000 ราย นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ โดยในวันศุกร์กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนส.ค. หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นหลังจากมีรายงานว่าเฮดจ์ฟันด์ซึ่งบริหารงานโดยนายจอห์น พอลสัน เข้าซื้อหุ้นในแบงค์ ออฟ อเมริกา กว่า 168 ล้านหุ้น ส่งผลให้หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 6.7% หุ้น และยังหนุนหุ้นธนาคารตัวอื่นๆดีดตัวขึ้นด้วย ส่วนหุ้นวอล-มาร์ทปิดพุ่ง 2.7% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาด หุ้นเมซี ปิดลบ 25 เซนต์ แตะที่ 16.15 ดอลลาร์ และหุ้นเบสท์บายปิดบวก 51 เซนต์ ปิดที่ 37.01 ดอลลาร์
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนัก หลังยอดค้าปลีกสหรัฐดิ่งเกินคาด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 42 นาทีที่แล้ว
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่าเศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสเริ่มขยายตัวขึ้น ขณะที่ยอดค้าปลีกที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายของสหรัฐทำให้นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.75% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 95.340 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธ 96.060 เยน/ดอลลาร์ และดอลลาร์ร่วงลง 0.64% แตะที่ 1.0699 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0768 ฟรังค์/ดอลลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ร่วงลง 0.56% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4281 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4201 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.50% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ แตะที่ 1.6571 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6488 ปอนด์/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.14% แตะที่ 0.8418 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8323 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทะยานขึ้น 1.27% แตะที่ 0.6786 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6701 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ลดลง 0.1% ส่วนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% ขณะที่ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแข็งแกร่งหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวขึ้น 0.3% ในไตรมาส 2 หลังจากที่ดิ่งลง 3.5% ในไตรมาสแรก และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 0.2% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นักวิเคราะห์จากเดคาแบงค์ในเมืองแฟรงค์เฟิร์ต กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทั่วโลกประกาศใช้ในช่วงที่ผ่านมา ช่วยหนุนยอดส่งออกเยอรมนีฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลเยอรมนีกำลังกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือน อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฝรั่งเศสในไตรมาส 2 ปีนี้ขยายตัว 0.3% สวนทางกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่าจะหดตัวลง 0.2% นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ โดยในวันศุกร์กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนส.ค.
ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก 36 เซนต์ หลังดอลล์อ่อนค่า
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 31 นาทีที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างคึกคัก รวมถึงสัญญาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท และการแสดงความคิดเห็นทางเศรษฐกิจในด้านบวกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 36 เซนต์ ปิดที่ 70.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 71.05-70.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นแตะที่ 2.0192 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.07 เซนต์ ปิดที่ 1.9028 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 73.48 ดอลลาร์/บาร์เรล แอนโทนี ฮาล์ฟ นักวิเคราะห์จากบริษัท นิวเอดจ์ ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า "ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากเฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 0-0.25% และยืนยันว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น หลังจากรัฐบาลและเฟดใช้นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน" สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 10.8% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 10.7% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นผลมาจากยอดการปล่อยกู้และการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของจีนขยายตัวขึ้นในอัตรา 15.2%ต่อปี แตะระดับ 9.937 แสนล้านหยวน หรือ 1.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ส่วนยอดค้าปลีกของจีนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้พุ่งขึ้น 15% แตะระดับ 6.86 ล้านล้านหยวน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า ดีมานด์น้ำมันดิบในปีนี้อาจไม่ปรับตัวลงมากเท่ากับที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นดีมานด์พลังงานทั่วโลกให้กระเตื้องขึ้นด้วย นอกจากนี้ น้ำมันดิบยังได้รับปัจจจัยบวกจากการที่เฟดยืนยันภายหลังการประชุมเมื่อคืนนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้คงคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้ไว้ และคาดว่าความต้องการน้ำมันในปี 2553 จะเพิ่มขึ้น 5 แสนบาร์เรลต่อวัน พร้อมกับคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกโดยเฉลี่ยในปีนี้ จะอยู่ที่ 83.91 ล้านบาร์เรลต่อวัน และอาจจะสูงถึง 84.41 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ส.ค.เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล แตะที่ 352.0 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล แตะที่ 162.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 211.9 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.0% แตะระดับ 83.5%
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อน หนุนทองคำปิดบวก $4
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 7 นาทีที่แล้ว
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปิดบวกเพียง 4 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากยังคงกังวลเรื่องตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ลดลงเหนือความคาดหมาย
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 956.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.00 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 949.80-963.10 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 14.987 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 40.20 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 9.05 เซนต์ ปิดที่ 2.9140 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,272.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 28.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 278.15 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ แมทท์ เซมาน นักวิเคราะห์จาก LaSalle Futures กล่าวกับเอพีว่า สัญญาทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง และข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นแล้ว รวมถึงรายงานของจีนที่ระบุว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 10.8% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 10.7% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นผลมาจากยอดการปล่อยกู้และการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ลดลง 0.1% ส่วนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% และกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4,000 ราย แตะที่ 558,000 ราย จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 554,000 ราย และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 545,000 ราย
เฟดชี้เศรษฐกิจอเมริกามีเสถียรภาพ ตลาดหุ้น-โภคภัณฑ์คึกคักมากขึ้น
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ -- 1 ชั่วโมง 35 นาทีที่แล้ว
ธนาคารกลางสหรัฐปล่อยอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์เปอร์เซนต์ตามคาด พร้อมทั้งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้หุ้นเอเชียและโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนซื้อหุ้นและสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นกลับคืนมาในขณะเดียวกันก็เทขายดอลลาร์สหรัฐ
วอล-มาร์ทเผยกำไรไตรมาสสองทรงตัว พร้อมเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรปีงบ 52
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 13 ชั่วโมง 37 นาทีที่แล้ว
วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ บริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่สุดของโลก รายงานผลกำไรไตรมาสสองที่ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 88 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 87 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ลดลง 1.4% แตะ 1 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ แม้ตัวเลขกำไรไตรมาสสองปี 2552 ไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว แต่ก็มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 85 เซนต์ และรายได้ 1.03 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมกันนี้ วอล-มาร์ทยังได้ปรับเพิ่มแนวโน้มผลกำไรปีนี้เป็น 3.50 - 3.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากเดิมที่ประเมินไว้ 3.45 - 3.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น เนื่องจากเชื่อว่ามาตรการลดต้นทุนที่บริษัทดำเนินการจะส่งผล และเชื่อว่าวอล-มาร์ทจะสามารถดึงดูดลูกค้าที่กำลังรัดเข็มขัดมาจากคู่แข่งได้
น้ำมันไนเม็กซ์ขยับไต่ 71 $-หุ้นปิดบวก
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแดนบวกต่อเนื่องวันที่สอง ขณะที่น้ำมันตลาดไนเม็กซ์ขยับขึ้นอีก 36 เซ็นต์ ไต่ 71 ดอลลาร์สหรัฐต่ออบาร์เรล
ปิดตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 9,398.19 จุด ปรับขึ้น 36.58 จุด หรือ 0.39 % , ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,009.35 จุด ปรับขึ้น 10.63 จุด หรือ 0.53 % และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,012.73 จุด ปรับขึ้น 6.92 จุด หรือ 0.69 %ด้าน ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ ไปอยู่ที่ระดับ 70.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ตลาดลอนดอน ปิดที่ 73.48 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับขึ้น 59 เซนต์ และราคาทองคำ ปิดที่ 956.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ปรับขึ้น 4 ดอลลาร์สหรัฐ
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: GDP เยอรมนีแกร่ง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 38.70 จุด
Friday, August 14, 2009 08:01:00ดัชนี FTSE 100
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นในทิศทางเศรษฐกิจยุโรป หลังจากเยอรมีและฝรั่งเศสเปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่ดีเกินคาด บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 38.70 จุด หรือ 0.82% แตะที่ 4,755.46 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,716.76-4,789.98 จุดสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวขึ้น 0.3% ในไตรมาส 2 หลังจากที่ดิ่งลง 3.5% ในไตรมาสแรก และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 0.2% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฝรั่งเศสในไตรมาส 2 ปีนี้ขยายตัว 0.3% สวนทางกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่าจะหดตัวลง 0.2% ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทั่วโลกประกาศใช้ในช่วงที่ผ่านมา ช่วยหนุนยอดส่งออกเยอรมนีฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลเยอรมนีกำลังกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นขานรับราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นอันโตฟากัสตา ปิดบวก 4.6% หุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ปิดพุ่ง 4.9% หุ้นคาซัคมิส ปิดบวก 5.2% และหุ้นเอ็กซ์สตราตาพุ่งขึ้น 6%
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 51.76 จุดเช้านี้ รับข่าวจีดีพียุโรป,วอล-มาร์ท
Friday, August 14, 2009 08:35:32
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ เพราะได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากบริษัท วอล-มาร์ท เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด รวมทั้งเยอรมนีและฝรั่งเศสที่เปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่ดีเกินคาดเช่นกันสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดขึ้น 51.76 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 10,568.95 จุดโบรกเกอร์กล่าวว่า ตลาดหุ้นโตเกียวได้รับแรงหนุนหลังจากบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่สุดของโลก รายงานผลกำไรไตรมาสสองที่ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 88 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 87 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 85 เซนต์ต่อหุ้นนอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจยุโรปจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้หลังจากเยอรมนีเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวขึ้น 0.3% ในไตรมาส 2 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 0.2% ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฝรั่งเศสในไตรมาส 2 ปีนี้ขยายตัว 0.3% สวนทางกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่าจะหดตัวลง 0.2%
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดหุ้นจีน:เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตขยับลง 0.08% เช้านี้ สวนทางดาวโจนส์
Friday, August 14, 2009 08:58:44
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลงเล็กน้อย สวนทางกับตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกแข็งแกร่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตอ่อนตัว 0.08% แตะ 3,138.15 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นเดินหน้า 0.04% แตะ 12,807.44 จุด
--อินโฟเควสท์--
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
Friday, August 14, 2009 09:00:00
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดถูกสกัดลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 36.58 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 9,398.19 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.92 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 1,012.73 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่ง 10.63 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 2,009.35 จุด-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างคึกคัก รวมถึงสัญญาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท และการแสดงความคิดเห็นทางเศรษฐกิจในด้านบวกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 36 เซนต์ ปิดที่ 70.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 71.05-70.52 ดอลลาร์/บาร์เรล-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปิดบวกเพียง 4 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากยังคงกังวลเรื่องตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ลดลงเหนือความคาดหมาย
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 956.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.00 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 949.80-963.10 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่าเศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสเริ่มขยายตัวขึ้น ขณะที่ยอดค้าปลีกที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายของสหรัฐทำให้นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.75% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 95.340 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธ 96.060 เยน/ดอลลาร์ และดอลลาร์ร่วงลง 0.64% แตะที่ 1.0699 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0768 ฟรังค์/ดอลลลาร์นอกจากนี้ ดอลลาร์ร่วงลง 0.56% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4281 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4201 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.50% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ แตะที่ 1.6571 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6488 ปอนด์/ดอลลาร์-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นในทิศทางเศรษฐกิจยุโรป หลังจากเยอรมีและฝรั่งเศสเปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่ดีเกินคาด ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 38.70 จุด หรือ 0.82% แตะที่ 4,755.46 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,716.76-4,789.98 จุด
--อินโฟเควสท์--
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 55 นาทีที่แล้ว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดถูกสกัดลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 36.58 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 9,398.19 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.92 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 1,012.73 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่ง 10.63 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 2,009.35 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 777 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 1,999 ต่อ 1,036 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.01 พันล้านหุ้น คีธ สปริงเกอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Capital Financial Advisory Services กล่าวกับเอพีว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการที่เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทั้งในส่วนของภาคครัวเรือน และภาคเอกชน นอกจากนี้ เฟดยืนยันว่าจะขยายเวลาการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ออกไปจนถึงเดือนต.ค. ซึ่งเดิมกำหนดไว้ที่เดือนก.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่าบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่สุดของโลก รายงานผลกำไรไตรมาสสองที่ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 88 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 87 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 85 เซนต์ต่อหุ้น วอล-มาร์ทยังได้ปรับเพิ่มแนวโน้มผลกำไรปีนี้เป็น 3.50 - 3.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากเดิมที่ประเมินไว้ 3.45 - 3.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น เนื่องจากเชื่อว่ามาตรการลดต้นทุนที่บริษัทดำเนินการจะส่งผล และเชื่อว่าวอล-มาร์ทจะสามารถดึงดูดลูกค้าที่กำลังรัดเข็มขัดมาจากคู่แข่งได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนผิดหวังต่อรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ลดลง 0.1% ส่วนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% และกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4,000 ราย แตะที่ 558,000 ราย จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 554,000 ราย และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 545,000 ราย นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ โดยในวันศุกร์กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนส.ค. หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นหลังจากมีรายงานว่าเฮดจ์ฟันด์ซึ่งบริหารงานโดยนายจอห์น พอลสัน เข้าซื้อหุ้นในแบงค์ ออฟ อเมริกา กว่า 168 ล้านหุ้น ส่งผลให้หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 6.7% หุ้น และยังหนุนหุ้นธนาคารตัวอื่นๆดีดตัวขึ้นด้วย ส่วนหุ้นวอล-มาร์ทปิดพุ่ง 2.7% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาด หุ้นเมซี ปิดลบ 25 เซนต์ แตะที่ 16.15 ดอลลาร์ และหุ้นเบสท์บายปิดบวก 51 เซนต์ ปิดที่ 37.01 ดอลลาร์
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนัก หลังยอดค้าปลีกสหรัฐดิ่งเกินคาด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 42 นาทีที่แล้ว
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่าเศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสเริ่มขยายตัวขึ้น ขณะที่ยอดค้าปลีกที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายของสหรัฐทำให้นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.75% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 95.340 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธ 96.060 เยน/ดอลลาร์ และดอลลาร์ร่วงลง 0.64% แตะที่ 1.0699 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0768 ฟรังค์/ดอลลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ร่วงลง 0.56% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4281 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4201 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.50% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ แตะที่ 1.6571 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6488 ปอนด์/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.14% แตะที่ 0.8418 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8323 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทะยานขึ้น 1.27% แตะที่ 0.6786 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6701 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ลดลง 0.1% ส่วนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% ขณะที่ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแข็งแกร่งหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวขึ้น 0.3% ในไตรมาส 2 หลังจากที่ดิ่งลง 3.5% ในไตรมาสแรก และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 0.2% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นักวิเคราะห์จากเดคาแบงค์ในเมืองแฟรงค์เฟิร์ต กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทั่วโลกประกาศใช้ในช่วงที่ผ่านมา ช่วยหนุนยอดส่งออกเยอรมนีฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลเยอรมนีกำลังกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือน อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฝรั่งเศสในไตรมาส 2 ปีนี้ขยายตัว 0.3% สวนทางกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่าจะหดตัวลง 0.2% นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ โดยในวันศุกร์กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนส.ค.
ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก 36 เซนต์ หลังดอลล์อ่อนค่า
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 31 นาทีที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างคึกคัก รวมถึงสัญญาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท และการแสดงความคิดเห็นทางเศรษฐกิจในด้านบวกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 36 เซนต์ ปิดที่ 70.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 71.05-70.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นแตะที่ 2.0192 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.07 เซนต์ ปิดที่ 1.9028 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 73.48 ดอลลาร์/บาร์เรล แอนโทนี ฮาล์ฟ นักวิเคราะห์จากบริษัท นิวเอดจ์ ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า "ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากเฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 0-0.25% และยืนยันว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น หลังจากรัฐบาลและเฟดใช้นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน" สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 10.8% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 10.7% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นผลมาจากยอดการปล่อยกู้และการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของจีนขยายตัวขึ้นในอัตรา 15.2%ต่อปี แตะระดับ 9.937 แสนล้านหยวน หรือ 1.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ส่วนยอดค้าปลีกของจีนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้พุ่งขึ้น 15% แตะระดับ 6.86 ล้านล้านหยวน จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า ดีมานด์น้ำมันดิบในปีนี้อาจไม่ปรับตัวลงมากเท่ากับที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นดีมานด์พลังงานทั่วโลกให้กระเตื้องขึ้นด้วย นอกจากนี้ น้ำมันดิบยังได้รับปัจจจัยบวกจากการที่เฟดยืนยันภายหลังการประชุมเมื่อคืนนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้คงคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้ไว้ และคาดว่าความต้องการน้ำมันในปี 2553 จะเพิ่มขึ้น 5 แสนบาร์เรลต่อวัน พร้อมกับคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกโดยเฉลี่ยในปีนี้ จะอยู่ที่ 83.91 ล้านบาร์เรลต่อวัน และอาจจะสูงถึง 84.41 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ส.ค.เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล แตะที่ 352.0 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล แตะที่ 162.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 211.9 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.0% แตะระดับ 83.5%
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อน หนุนทองคำปิดบวก $4
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 7 นาทีที่แล้ว
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปิดบวกเพียง 4 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากยังคงกังวลเรื่องตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ลดลงเหนือความคาดหมาย
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 956.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.00 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 949.80-963.10 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 14.987 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 40.20 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 9.05 เซนต์ ปิดที่ 2.9140 ดอลลาร์/ปอนด์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,272.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 28.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 278.15 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ แมทท์ เซมาน นักวิเคราะห์จาก LaSalle Futures กล่าวกับเอพีว่า สัญญาทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง และข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นแล้ว รวมถึงรายงานของจีนที่ระบุว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 10.8% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 10.7% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นผลมาจากยอดการปล่อยกู้และการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ลดลง 0.1% ส่วนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% และกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4,000 ราย แตะที่ 558,000 ราย จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 554,000 ราย และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 545,000 ราย
เฟดชี้เศรษฐกิจอเมริกามีเสถียรภาพ ตลาดหุ้น-โภคภัณฑ์คึกคักมากขึ้น
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ -- 1 ชั่วโมง 35 นาทีที่แล้ว
ธนาคารกลางสหรัฐปล่อยอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์เปอร์เซนต์ตามคาด พร้อมทั้งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้หุ้นเอเชียและโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนซื้อหุ้นและสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นกลับคืนมาในขณะเดียวกันก็เทขายดอลลาร์สหรัฐ
วอล-มาร์ทเผยกำไรไตรมาสสองทรงตัว พร้อมเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรปีงบ 52
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 13 ชั่วโมง 37 นาทีที่แล้ว
วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ บริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่สุดของโลก รายงานผลกำไรไตรมาสสองที่ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 88 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 87 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ลดลง 1.4% แตะ 1 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ แม้ตัวเลขกำไรไตรมาสสองปี 2552 ไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว แต่ก็มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 85 เซนต์ และรายได้ 1.03 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมกันนี้ วอล-มาร์ทยังได้ปรับเพิ่มแนวโน้มผลกำไรปีนี้เป็น 3.50 - 3.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากเดิมที่ประเมินไว้ 3.45 - 3.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น เนื่องจากเชื่อว่ามาตรการลดต้นทุนที่บริษัทดำเนินการจะส่งผล และเชื่อว่าวอล-มาร์ทจะสามารถดึงดูดลูกค้าที่กำลังรัดเข็มขัดมาจากคู่แข่งได้
น้ำมันไนเม็กซ์ขยับไต่ 71 $-หุ้นปิดบวก
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแดนบวกต่อเนื่องวันที่สอง ขณะที่น้ำมันตลาดไนเม็กซ์ขยับขึ้นอีก 36 เซ็นต์ ไต่ 71 ดอลลาร์สหรัฐต่ออบาร์เรล
ปิดตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 9,398.19 จุด ปรับขึ้น 36.58 จุด หรือ 0.39 % , ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,009.35 จุด ปรับขึ้น 10.63 จุด หรือ 0.53 % และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,012.73 จุด ปรับขึ้น 6.92 จุด หรือ 0.69 %ด้าน ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ ไปอยู่ที่ระดับ 70.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ตลาดลอนดอน ปิดที่ 73.48 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับขึ้น 59 เซนต์ และราคาทองคำ ปิดที่ 956.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ปรับขึ้น 4 ดอลลาร์สหรัฐ
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: GDP เยอรมนีแกร่ง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 38.70 จุด
Friday, August 14, 2009 08:01:00ดัชนี FTSE 100
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นในทิศทางเศรษฐกิจยุโรป หลังจากเยอรมีและฝรั่งเศสเปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่ดีเกินคาด บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 38.70 จุด หรือ 0.82% แตะที่ 4,755.46 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,716.76-4,789.98 จุดสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวขึ้น 0.3% ในไตรมาส 2 หลังจากที่ดิ่งลง 3.5% ในไตรมาสแรก และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 0.2% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฝรั่งเศสในไตรมาส 2 ปีนี้ขยายตัว 0.3% สวนทางกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่าจะหดตัวลง 0.2% ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทั่วโลกประกาศใช้ในช่วงที่ผ่านมา ช่วยหนุนยอดส่งออกเยอรมนีฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลเยอรมนีกำลังกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นขานรับราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นอันโตฟากัสตา ปิดบวก 4.6% หุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ปิดพุ่ง 4.9% หุ้นคาซัคมิส ปิดบวก 5.2% และหุ้นเอ็กซ์สตราตาพุ่งขึ้น 6%
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 51.76 จุดเช้านี้ รับข่าวจีดีพียุโรป,วอล-มาร์ท
Friday, August 14, 2009 08:35:32
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ เพราะได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากบริษัท วอล-มาร์ท เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด รวมทั้งเยอรมนีและฝรั่งเศสที่เปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่ดีเกินคาดเช่นกันสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดขึ้น 51.76 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 10,568.95 จุดโบรกเกอร์กล่าวว่า ตลาดหุ้นโตเกียวได้รับแรงหนุนหลังจากบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่สุดของโลก รายงานผลกำไรไตรมาสสองที่ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 88 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 87 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 85 เซนต์ต่อหุ้นนอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจยุโรปจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้หลังจากเยอรมนีเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวขึ้น 0.3% ในไตรมาส 2 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 0.2% ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฝรั่งเศสในไตรมาส 2 ปีนี้ขยายตัว 0.3% สวนทางกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่าจะหดตัวลง 0.2%
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดหุ้นจีน:เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตขยับลง 0.08% เช้านี้ สวนทางดาวโจนส์
Friday, August 14, 2009 08:58:44
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลงเล็กน้อย สวนทางกับตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกแข็งแกร่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตอ่อนตัว 0.08% แตะ 3,138.15 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นเดินหน้า 0.04% แตะ 12,807.44 จุด
--อินโฟเควสท์--
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
Friday, August 14, 2009 09:00:00
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดถูกสกัดลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 36.58 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 9,398.19 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.92 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 1,012.73 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่ง 10.63 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 2,009.35 จุด-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างคึกคัก รวมถึงสัญญาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท วอล-มาร์ท และการแสดงความคิดเห็นทางเศรษฐกิจในด้านบวกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 36 เซนต์ ปิดที่ 70.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 71.05-70.52 ดอลลาร์/บาร์เรล-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปิดบวกเพียง 4 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากยังคงกังวลเรื่องตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ลดลงเหนือความคาดหมาย
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 956.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.00 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 949.80-963.10 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่าเศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสเริ่มขยายตัวขึ้น ขณะที่ยอดค้าปลีกที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายของสหรัฐทำให้นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.75% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 95.340 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธ 96.060 เยน/ดอลลาร์ และดอลลาร์ร่วงลง 0.64% แตะที่ 1.0699 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0768 ฟรังค์/ดอลลลาร์นอกจากนี้ ดอลลาร์ร่วงลง 0.56% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4281 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4201 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.50% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ แตะที่ 1.6571 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6488 ปอนด์/ดอลลาร์-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นในทิศทางเศรษฐกิจยุโรป หลังจากเยอรมีและฝรั่งเศสเปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่ดีเกินคาด ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 38.70 จุด หรือ 0.82% แตะที่ 4,755.46 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,716.76-4,789.98 จุด
--อินโฟเควสท์--
Comments
Post a Comment