News Update : 26/08/2009

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 30 จุดหลังโอบามา หนุน เบอร์นันเก้นั่งปธ.เฟดอีกสมัย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 48 นาทีที่แล้ว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขานรับข่าวที่ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา เสนอชื่อนายเบน เบอร์นันเก้ ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกสมัย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ดีเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 30.01 จุดหรือ 0.32% แตะที่ 9,539.29 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.43 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 1,028.00 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 6.25 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 2,024.23 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.14 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.95 พันล้านหุ้น

ไบรอัน ดาลีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์คอนิเฟอร์ในนิวยอร์ กล่าวกับเอพีว่า นักลงทุนขานรับการตัดสินใจของโอบามาที่เสนอชื่อเบอร์นันเก้ให้เป็นประธานเฟดต่ออีกสมัย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้นสูงเกินคาด และ S&P/Case-Shiller เปิดเผยดัชนีราคาบ้านเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย.

พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2551 กล่าวแสดงความเห็นว่า เบอร์นันเก้สมควรได้รับการไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นประธานเฟดต่อเป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากเบอร์นันเก้ประสบความสำเร็จในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงิน

ด้านนายคริสโตเฟอร์ ด็อด ประธานคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐกล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีโอบามาประกาศเสนอชื่อเบอร์นันเก้ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดอีกสมัย ถือเป็นทางเลือกที่ถูก และเป็นการส่งสัญญาณด้านบวกต่อตลาด

หุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านทะยานขึ้นแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้นปิดในแดนบวก อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสาธารณูปโภคร่วลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก

"อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาดได้ช่วยหนุนดาวโจนส์ปิดบวก แต่ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงผันผวนเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งความกังวลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายและส่งผลสกัดช่วงขาขึ้นของดาวโจนส์" ดาลีย์กล่าว

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 2 ดอลลาร์ โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตันปิดร่วง 3% หุ้น Chesapeake Energy ปิดร่วง 2.5% แต่หุ้นกลุ่มสร้างบ้านดีดตัวขึ้น โดยหุ้นฮอฟนาเนียน เอนเตอร์ไพรซ์ ปิดพุ่ง 6.5% และหุ้นเลนนาร์ คอร์ป ปิดบวก 2.8% ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้น โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกาปิดบวก 2.3%

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 50.13 จุดเช้านี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 4 นาทีที่แล้ว
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสเกินคาด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้น 50.13 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 10,547.49 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวคึกคักขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 54.1 จุดในเดือนส.ค. จาก 47.4 ในเดือนก.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 47.5 จุด

นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า การทรุดตัวของตลาดบ้านที่ดำเนินมา 3 ปีนั้นกำลังบรรเทาลง
อย่างไรก็ตาม นิกเกอิดีดตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งญี่ปุ่น โดยล่าสุดมีรายงานว่านายคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น แสดงความกังวลว่าพรรคฝ่ายค้านดีพีเจอาจคว้าชัยชนะแบบถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 30 สิงหาคมนี้ และยังวิตกว่าระบอบประชาธิปไตยที่เหมาะสมอาจถูกทำลายหากพรรคแอลดีพีและพรรคอื่นๆไม่ช่วยกันยั้งพรรคดีพีเจ ซึ่งถ้อยแถลงของเขาแสดงให้เห็นว่าพรรคแอลดีพีที่ครองอำนาจในรัฐบาลญี่ปุ่นมานานเกือบครึ่งศตวรรษกำลังตกที่นั่งลำบาก

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มประกัน และกลุ่มโลหะดีดตัวขึ้น แต่หุ้นกลุ่มเหมืองและกลุ่มค้าปลีก ร่วงลงในช่วงเช้านี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 20.57 จุด หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจสดใส
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 17 นาทีที่แล้ว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงดัชนีราคาบ้านและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากนักลงทุนเข้าซื้อห้นกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม

บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 20.57 จุด หรือ 0.42% แตะที่ 4,916.80 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,858.94-4,923.28 จุด

เดวิด บูอิค นักวิเคราะห์จาก BGC Partners กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนคึกคักขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 54.1 จุดในเดือนส.ค. จาก 47.4 ในเดือนก.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 47.5 จุด และ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า การทรุดตัวของตลาดบ้านที่ดำเนินมา 3 ปีนั้นกำลังบรรเทาลง
สมาคมนายธนาคารแห่งอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดอนุมัติการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือนที่ 38,181 รายในเดือนกรกฎาคม จาก 35,564 รายในเดือนมิถุนายน ในขณะเดียวกัน มูลค่าการปล่อยสินเชื่อเพื่อบ้านโดยรวมเพิ่มขึ้นแตะ 8.4 พันล้านปอนด์ (1.34 หมื่นล้านดอลลาร์) จาก 8.1 พันล้านปอนด์

หุ้นโวดาโฟน ซึ่งเป็นบริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่สุดของโลก พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นเคเบิ้ลแอนด์ไวร์เลส ปิดพุ่ง 2.9% หลังจากเจพีมอร์แกน เชสแอนด์ โค แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นกลุ่มสื่อสาร
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 1.2% หุ้นคาซัคมิสปิดลบ 3.6% หุ้นอันโตฟากัสต้าปิดบวก 3%

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร หลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.สดใส
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 33 นาทีที่แล้ว
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมดึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ทำนักลงทุนเทขายดอลลาร์หลังจากที่เคยมองว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังจากทำเนียบขาวคาดการณ์ว่าสหรัฐจะขาดดุลงบประมาณมากขึ้น

บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง 0.05% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4307 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4300 ยูโร/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.41% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6352 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6419 ปอนด์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์อ่อนตัวลง 0.36% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.130 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.470 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0607 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0608 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.25% แตะที่ 0.8359 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8380 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.6840 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6843 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ก่อนหน้านี้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจยังอ่อนแอ แต่เมื่อคืนนี้นักลงทุนเทขายดอลลาร์หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 54.1 จุดในเดือนส.ค. จาก 47.4 ในเดือนก.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 47.5 จุด

ขณะที่ S&P/Case-Shiller เปิดเผยดัชนีราคาบ้านพุ่งขึ้น 1.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ หลังจากสำนักงบประมาณของทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐในปีนี้จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าในปีที่แล้วที่ขาดดุลเพียง 4.55 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ คาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณสะสมในระหว่างปี 2553-2562 จะพุ่งเป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นต้นประจำไตรมาส 2 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

วันศุกร์กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ค. และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อน หนุนทองคำปิดบวก $2.30
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 4 นาทีที่แล้ว
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทองคำปิดบวกไม่มากนักเพราะได้รับแรงกดดันจากสัญญาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากทำเนียบขาวคาดการณ์ว่ายอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐจะพุ่งขึ้นรุนแรง

บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 946.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 943.10-956.30 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 14.290 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.50 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนต.ค.ปิดที่ 1,247.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 30.00 เซนต์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 288.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.45 ดอลลาร์

ราล์ฟ เพรสตัน นักวิเคราะห์จาก Heritage West Futures Inc กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสทำให้นักลงทุนมองว่าสกุลเงินดอลลาร์ไม่ใช่การลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง จึงได้หันเข้าซื้อสัญญาทองคำ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อได้ถูกแรงขายสกัดลงในช่วงบ่าย หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก

SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนซื้อขายทองคำรายใหญ่ของโลก ได้เข้าถือครองทองคำราว 1,066.41 เมตริกตันเมื่อวานนี้ หลังจากเข้าถือครองทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ 1,134.03 เมตริกตัน

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ข่าวสหรัฐขาดดุลงบประมาณ ฉุดน้ำมันดิบปิดร่วง $2.32
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 22 นาทีที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) หลังจากทำเนียบขาวคาดการณ์ว่ายอดขาดดุลสะสมของสหรัฐจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐ หลังจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาด

บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 2.32 ปิดที่ 72.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 75.00-72.05 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 4.21 เซนต์ ปิดที่ 2.007 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 6.75 เซนต์ ปิดที่ 1.8559 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 2.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

ฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จาก PFGBest Research กล่าวว่า ในช่วงเช้า สัญญาน้ำมัน NYMEX ทะยานขึ้นหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้นสูงเกินคาด และ S&P/Case-Shiller เปิดเผยดัชนีราคาบ้านเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย.

แต่ในช่วงบ่าย นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบ หลังจากสำนักงบประมาณของทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐในปีนี้จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าในปีที่แล้วที่ขาดดุลเพียง 4.55 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ คาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณสะสมในระหว่างปี 2553-2562 จะพุ่งเป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่าสต็อกน้ำมันของสหรัฐที่พุ่งขึ้นอาจสะท้อนให้เห็นว่าดีมานด์พลังงานหดตัวลง หลังจาก API รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ส.ค.เพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 146,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 900,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.3%

โอมาบา ตั้งเบอร์นันเก้อีกสมัย ตลาดหุ้นมีปฏิกิริยาเพียงเล็กน้อย
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ -- 1 ชั่วโมง 24 นาทีที่แล้ว
(แมสซาชูเสตส์) ประธานาธิบดี บารัค โอบามาแต่งตั้งเบน เบอร์นันเก้เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐเป็นสมัยที่สองเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ต้องให้วุฒิสภารับรองก่อน ตลาดการเงินมีปฏิกิริยาไม่มากต่อข่าวนี้ แต่การแต่งตั้งแต่เนิ่นๆช่วยลดความวิตกแก่นักลงทุนได้

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิบวก 50.13 จุดเช้านี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
Wednesday, August 26, 2009 08:13:35
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสเกินคาด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้น 50.13 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 10,547.49 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวคึกคักขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 54.1 จุดในเดือนส.ค. จาก 47.4 ในเดือนก.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 47.5 จุด

นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า การทรุดตัวของตลาดบ้านที่ดำเนินมา 3 ปีนั้นกำลังบรรเทาลง

อย่างไรก็ตาม นิกเกอิดีดตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งญี่ปุ่น โดยล่าสุดมีรายงานว่านายคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น แสดงความกังวลว่าพรรคฝ่ายค้านดีพีเจอาจคว้าชัยชนะแบบถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 30 สิงหาคมนี้ และยังวิตกว่าระบอบประชาธิปไตยที่เหมาะสมอาจถูกทำลายหากพรรคแอลดีพีและพรรคอื่นๆไม่ช่วยกันยั้งพรรคดีพีเจ ซึ่งถ้อยแถลงของเขาแสดงให้เห็นว่าพรรคแอลดีพีที่ครองอำนาจในรัฐบาลญี่ปุ่นมานานเกือบครึ่งศตวรรษกำลังตกที่นั่งลำบาก

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มประกัน และกลุ่มโลหะดีดตัวขึ้น แต่หุ้นกลุ่มเหมืองและกลุ่มค้าปลีก ร่วงลงในช่วงเช้านี้

--อินโฟเควสท์--

ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วง 0.89% เช้านี้ สวนทางดาวโจนส์
Wednesday, August 26, 2009 08:43:35
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดวันนี้ร่วงลง สวนทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขานรับข่าวที่ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา เสนอชื่อนายเบน เบอร์นันเก้ ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกสมัย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ดีเกินคาด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วง 0.89% แตะ 2,889.74 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้น อ่อนตัว 0.77% แตะ 11,598.58 จุด

--อินโฟเควสท์--

Comments