News Update : 08/09/2009


อังค์ถัดคาดเศรษฐกิจโลกหดตัวกว่า 2.5% ปีนี้ แต่เชื่อเศรษฐกิจจีนโต 7.8% หลังรบ.ใช้แผนฟื้นฟู
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 42 นาทีที่แล้ว
องค์การที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา(UNCTAD) คาดการณ์ในวันนี้ว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลงมากกว่า 2.5% ในปีนี้ แต่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 7.8% เนื่องจากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ช่วยกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศ และยังช่วยให้จีนสามารถต้นทานวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้

UNCTAD คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในกลุ่มชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจจะหดตัว 4% และส่วนเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาคาดว่าจะขยายตัวช้าลงสู่ระดับ 1.3% ในปีนี้ จากปีที่แล้วที่หดตัวลง 5.4% ส่วนในภูมิภาคเอเชียนั้น คาดว่าเศษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะหดตัว 0.8% เนื่องจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พึ่งพาการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมมากเกินไป และคาดว่าเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกจะยังสามารถขยายตัวได้ 3.7%

ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการ UNCTAD กล่าวว่า "รัฐบาลจีนดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอย่างเหมาะสมจึงทำให้เศรษฐกิจจีนยังสามารถขยายตัวได้ 7.1% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แม้ถูกกระทบบ้างจากวิกฤตการณ์การเงินโลกก็ตาม"

มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นในไตรมาสแรก เนื่องจากงบประมาณดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้ในโครงการต่างๆที่สำคัญ ซึ่งช่วยให้อัตราจ้างงานพุ่งสูงขึ้นด้วย รวมถึงโครงการสร้างทางด่วน ทางรถไฟ ที่อยู่อาศัย โรงเรียน โรงพยาบาล และโครงการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สำนักข่าวซินหัวรายงาน

ญี่ปุ่นเผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ค.ร่วง 19.4%
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 18 นาทีที่แล้ว
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดประจำเดือนก.ค.ร่วงลง 19.4% จากปีที่แล้ว แตะระดับ 1.27 ล้านล้านเยน โดยตัวเลขบัญชีเดินสะพัดเป็นมาตรวัดมูลค่าการค้าระหว่างญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆทั่วโลก

รายงานระบุว่า ยอดส่งออกในเดือนก.ค.ร่วงลง 37.6% แตะที่ 4.55 ล้านล้านเยน ซึ่งทำสถิติร่วงลงติดต่อกัน 10 เดือน ขณะที่ยอดนำเข้าดิ่งลง 41.2% แตะที่ 4.11 ล้านล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดพุ่ง 81.48 จุด จากข่าวแคดบิวรีปัดข้อเสนอซื้อจากคราฟท์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 2 ชั่วโมง 5 นาทีที่แล้ว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มแคดบิวรีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 21 ปี หลังจากมีรายงานว่าแคดบิวรีปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัท คราฟท์ ฟู๊ดส์ มูลค่า 1.02 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 1.67 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 81.48 จุด หรือ 1.7% แตะที่ 4933.18 จุด
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นแคดบิวรีจนราคาหุ้นทะยานขึ้น 38% หลังจากบริษัท คราฟท์ ฟู้ดส์ บริษัทผู้ผลิตอาหารรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นข้อเสนอซื้อแคดบิวรี พีแอลซี บริษัทผู้ผลิตลูกอมลูกกวาดสัญชาติอังกฤษ เป็นมูลค่า 1.02 หมื่นล้านปอนด์ (1.67 หมื่นล้านดอลลาร์) แต่ได้รับการปฏิเสธจากบอร์ดของแคดบิวรีในทันที

แม้แคดบิวรีได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้อย่างชัดเจน แต่คราฟท์ระบุว่า บริษัทยังคงยึดมั่นกับแผนการนี้และจะยังคงเดินหน้าเจรจาที่สร้างสรรค์ ซึ่งการประกาศให้ทราบถึงข้อเสนอในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นและผลักดันให้กระบวนการนี้คืบหน้าต่อไป ขณะที่คราฟท์ยืนยันว่าต้องการสานต่อแบรนด์ของแคดบิวรี อาทิ ช็อคโกแลตแดรีมิลค์ ลูกอมฮอลส์ หมากฝรั่งไทรเดนท์และเดนทีน เป็นต้น

ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นลอนมินพุ่งขึ้น 5.9% หลังจากดิ อ็อบเซิร์ฟเวอร์ รายงานว่า นายมิค เดวิส ซีอีโอลอนมินกำลังพิจารณาข้อเสนอการควบรวมกิจการจากบริษัทเหมืองแร่แห่งหนึ่ง พร้อมกับมอบหมายให้เจพีมอร์แกน และดอยช์ แบงค์ เอจี ศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องนี้
ขณะที่หุ้นอันโตฟากัสตา ปิดบวก 2.6% และหุ้นคาซัคมิสปิดบวก 3.1%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างผลสำรวจความเห็นผู้ประกอบการที่จัดทำโดย Engineering Employers Federation (EEF) และ BDO Stoy Hayward LLP ซึ่งระบุว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมจะขยับขึ้นมาสู่ระดับติดลบ 2 ในไตรมาสหน้า เมื่อเทียบกับที่ติดลบ 25 ในไตรมาส 3

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: ตลาดหุ้นยุโรปทะยาน หนุนนิกเกอิบวก 16.99 จุดเช้านี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 23 นาทีที่แล้ว
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตาม นิกเกอิดีดตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากตลาดขาดปัจจัยชี้นำ หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 7 ก.ย.เนื่องในวันแรงงานสหรัฐ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ดัชนีนิกเกอิดีดขึ้น 16.99 จุด หรือ 0.16% แตะที่ระดับ 10,337.93 จุด

โบรกเกอร์กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายซบเซาในช่วงเช้านี้เนื่องจากตลาดสหรัฐปิดทำการวันจันทร์ อย่างไรก็ตาม คาดว่านักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book วันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค.

ส่วนวันศุกร์จะมีการเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนก.ย. และรายงานตัวเลขงบประมาณของรัฐบาลกลางประจำเดือนส.ค.

คราฟต์ ฟูดส์ขอซื้อแคดบูรี่ ส่วนกองทุนอาบูดาบีซื้อบริษัทชิพสิงคโปร์
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ -- 2 ชั่วโมง 7 นาทีที่แล้ว
คราฟต์ ฟูดส์ เสนอซื้อแคดบูรี่ของอังกฤษ ในราคา 16,700ล้านดอลลาร์สหรัฐ(10,200 ล้านปอนด์) แต่แคดบูรี่บอกปัดอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน กองทุน ATICของรัฐบาลอาบูดาบีทาบทามซื้อชาร์เตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ ของสิงคโปร์เป็นเงิน 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อหาทางสร้างอิทธิพลในอุตสาหกรรมไมโครชิพโลก

(เพิ่มเติม) ญี่ปุ่นเผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ค.ร่วง 19.4%
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 3 นาทีที่แล้ว
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดประจำเดือนก.ค.ร่วงลง 19.4% จากปีที่แล้ว แตะระดับ 1.27 ล้านล้านเยน น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.45 ล้านล้านเยน โดยตัวเลขบัญชีเดินสะพัดเป็นมาตรวัดมูลค่าการค้าระหว่างญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆทั่วโลก

รายงานระบุว่า ยอดส่งออกในเดือนก.ค.ร่วงลง 37.6% แตะที่ 4.55 ล้านล้านเยน ซึ่งทำสถิติร่วงลงติดต่อกัน 10 เดือน ขณะที่ยอดนำเข้าดิ่งลง 41.2% แตะที่ 4.11 ล้านล้านเยน

ซูซูมุ คาโตะ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์คาลิยงในกรุงดตเกียว กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยังคงทรุดตัวลงเนื่องยอดขายรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าหดตัวลง แม้เศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรงแล้วก็ตาม โดยเมื่อไม่นานมานี้ ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกภายในประเทศร่วงลง 36.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งร่วงลงมากกว่าเดือนมิ.ย.ที่ลดลง 35.7% โดยอุตสาหกรรมการส่งออกเป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว 3.7% ในไตรมาสที่แล้ว ทั้งนี้ ยอดส่งออกที่หดตัวอาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าลง

บริษัทเอกชนญี่ปุ่นลดตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนลง 22.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 9 ไตรมาส หลังจากดิ่งลง 25.4% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยได้ฉุดผลกำไรหดตัวลงด้วย ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของรัฐบาลญี่ปุ่นชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น (ดีพีเจ) ว่าจะสามารถนำพาเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืนได้หรือไม่

เซอิจิ ชิราอิชิ นักวิเคราะห์จาก HSBC กล่าวว่า บริษัททุกประเภทในญี่ปุ่นตั้งแต่บริษัท ซันโญ อิเล็กทริก ไปจนถึงเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้ง ต่างพากันลดการใช้จ่าย เนื่องจากภาคครัวเรือนใช้จ่ายน้อยลงและยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศปรับตัวลงด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอ

Comments