ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงซื้อหุ้นพลังงาน หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 51.01 จุด
Wednesday, September 23, 2009 06:30:00
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและโลหะหลังจากราคาน้ำมันดิบและโลหะในตลาดโลกทะยานขึ้น นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายค่อนข้างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นลงในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 51.01 จุด หรือ 0.52% แตะที่ 9,829.87 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 7.00 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 1,071.66 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 11 เดือน และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 8.26 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 2,146.30 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.27 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 5 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.51 พันล้านหุ้น
อาร์ท โฮแกน นักวิเคราะห์จากบริษัท Jefferies & Co ในนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงทำให้ราคาพลังงานและโลหะในตลาดโลกทะยานขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มโลหะดีดตัวขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายค่อนข้างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่การประชุมเฟดจะเสร็จสิ้นลงในคืนวันพุธ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25%
ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งจัดทำโดย ABC News บ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ -46 จุด จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ -49 จุด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะประกาศมติการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบและโลหะหนุนหุ้นยูเอส สตีล ปิดบวก 4.6% หุ้น Chesapeake Energy Corp ปิดบวก 3.6% ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 1.2% และหุ้นธนาคารชาร์ล็อตปิดบวก 2.1%
หุ้นกูเกิลปิดพุ่งขึ้น 2.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 499.06 ดอลลาร์ หลังจากนักวิเคราะห์ของแคนาคอร์ด อดัมส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาหุ้นกูเกิลขึ้นสู่ระดับ 560 ดอลลาร์เมื่อวานนี้
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก $1.84 ขณะนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมัน
Wednesday, September 23, 2009 06:59:00
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเสร็จสิ้นในวันพุธ
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2.64% ปิดที่ 71.55 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.61-71.85 ดอลลาร์ (สัญญาน้ำมันดิบเดือนต.ค.ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันอังคารที่ 22 ก.ย.)
ส่วนราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ย.ปิดบวก 1.83 ดอลลาร์ แตะที่ 71.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 6.04 เซนต์ ปิดที่ 1.8121 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 3.02 เซนต์ ปิดที่ 1.7816 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จาก PFGBest กล่าวว่า "สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ แต่หากดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงมากไปกว่านี้ก็จะขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ"
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.9%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมเฟดหลังจากมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนส.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนส.ค. และยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนส.ค.
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดพุ่ง $10.60 หลังดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว
Wednesday, September 23, 2009 07:19:00
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลง ซึ่งช่วยพยุงสัญญาทองคำปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเสร็จสิ้นในวันพุธ เพื่อจับทิศทางสกุลเงินดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,015.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 10.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,004.20-1,021.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 17.115 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 23.50 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,339.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 302.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.25 ดอลลาร์
แมท เซมาน นักวิเคราะห์จากบริษัท LaSalle Futures Group Inc ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยดัชนีดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว ซึ่งทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า
เซมานกล่าวว่า สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงเมื่อวันจันทร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าคณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟอนุมัติการขายทองคำสำรองในปริมาณ 403.0 ตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 8 ของปริมาณทองคำสำรองในปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายที่จะให้สอดคล้องกับแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า
รายงานระบุว่า ณ วันที่ 21 ก.ย. กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในทองคำรายใหญ่สุดของโลก ถือครองทองคำทั้งสิ้น 1,101.735 ตัน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ 1,086.479 ตัน
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นเหมือง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 8.24 จุด
Wednesday, September 23, 2009 07:44:00
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคาโลหะได้หนุนหุ้นกลุ่มโลหะทะยานขึ้น รวมถึงหุ้นริโอ ตินโต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 8.24 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 5,142.60 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,134.36-5,189.88 จุด
ฟิลิป จิลเล็ต นักวิเคราะห์จาก IG Index กล่าวว่า หุ้นริโอ ทินโต ปิดพุ่ง 2.4% หลังจากราคาโลหะทองแดงในตลาดลอนดอนทะยานขึ้น และจากข่าวที่ว่าริโอ ทินโต ตกลงขายกิจการบริษัท อัลแคน คอมโพสิทส์ ให้กับบริษัท สวิทเตอร์ เทคโนโลยี เอจี มูลค่า 349 ล้านดอลลาร์ เพื่อลดภาระหนี้สิน
ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเหมืองแร่นั้น หุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส ปิดบวก 1.9% และหุ้นลอนมินปิดพุ่ง 2.3% ส่วนหุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นผู้ผลิตโลหะเงินรายใหญ่ของโลก ปิดบวก 3.6% และหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ปิดบวก 2%
หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากความอ่อนแอของดอลลาร์ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดบวก 0.7% หุ้นบีพีปิดพุ่ง 0.9% และหุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จี ปิดบวก 1.1%
ส่วนหุ้นทุลโลว์ ออยล์ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจน้ำมัน ปิดบวก 0.35% หลังจากบริษัท มอร์แกน สแตนเลย์ ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นทุลโลว์ ออยล์ สู่ระดับ 1,500 เพนซ์ จากเดิมที่ระดับ 1,225 เพนซ์
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนักเทียบยูโร หลังเทรดเดอร์เทขายก่อนรู้ผลประชุมเฟด
Wednesday, September 23, 2009 08:03:00
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้นส่งผลให้เทรดเดอร์ลดการถือครองดอลลาร์และแห่เข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า โดยดีมานด์ดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างมากก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นลงในคืนวันพุธ และก่อนที่การประชุมสุดยอดกลุ่มจี-20 จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.48 ยูโรต่อดอลลาร์ และดิ่งลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 91.120 เยน จากระดับปิดวันจันทร์ที่ 92.040 เยน
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6352 ปอนด์ต่อดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.6194 ปอนด์ต่อดอลลาร์
เทรดเดอร์ลดการถือครองดอลลาร์และแห่เข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งจัดทำโดย ABC News บ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ -46 จุด จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ -49 จุด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะประกาศมติการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ย วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.
นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% ในการประชุม 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 23 ก.ย.นี้
กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากขึ้น เพราะเชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐจะยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ แม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบปีและยอดขาดดุลงบประมาณพุ่งเหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ก็ตาม
ดัชนีดอลลาร์ที่ร่วงลง 15% จากระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขณะที่กลุ่มผู้จัดการกองทุนมั่นใจว่าเม็ดเงินลงทุนของพวกเขาจะปลอดภัยในสหรัฐ เพราะเชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดหุ้นจีน:เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดเช้าขยับขึ้น 0.01% ตามดาวโจนส์
Wednesday, September 23, 2009 08:53:27
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดเช้าวันนี้ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยบรรยากาศการซื้อขายเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและโลหะ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตขยับขึ้น 0.01% แตะ 2,897.81จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นอ่อนตัว 0.22% แตะ 11,787.87 จุด
--อินโฟเควสท์--
Wednesday, September 23, 2009 06:30:00
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและโลหะหลังจากราคาน้ำมันดิบและโลหะในตลาดโลกทะยานขึ้น นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายค่อนข้างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นลงในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 51.01 จุด หรือ 0.52% แตะที่ 9,829.87 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 7.00 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 1,071.66 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 11 เดือน และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 8.26 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 2,146.30 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.27 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 5 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.51 พันล้านหุ้น
อาร์ท โฮแกน นักวิเคราะห์จากบริษัท Jefferies & Co ในนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงทำให้ราคาพลังงานและโลหะในตลาดโลกทะยานขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มโลหะดีดตัวขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายค่อนข้างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่การประชุมเฟดจะเสร็จสิ้นลงในคืนวันพุธ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25%
ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งจัดทำโดย ABC News บ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ -46 จุด จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ -49 จุด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะประกาศมติการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบและโลหะหนุนหุ้นยูเอส สตีล ปิดบวก 4.6% หุ้น Chesapeake Energy Corp ปิดบวก 3.6% ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 1.2% และหุ้นธนาคารชาร์ล็อตปิดบวก 2.1%
หุ้นกูเกิลปิดพุ่งขึ้น 2.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 499.06 ดอลลาร์ หลังจากนักวิเคราะห์ของแคนาคอร์ด อดัมส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาหุ้นกูเกิลขึ้นสู่ระดับ 560 ดอลลาร์เมื่อวานนี้
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก $1.84 ขณะนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมัน
Wednesday, September 23, 2009 06:59:00
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเสร็จสิ้นในวันพุธ
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2.64% ปิดที่ 71.55 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.61-71.85 ดอลลาร์ (สัญญาน้ำมันดิบเดือนต.ค.ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันอังคารที่ 22 ก.ย.)
ส่วนราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ย.ปิดบวก 1.83 ดอลลาร์ แตะที่ 71.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 6.04 เซนต์ ปิดที่ 1.8121 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 3.02 เซนต์ ปิดที่ 1.7816 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จาก PFGBest กล่าวว่า "สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ แต่หากดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงมากไปกว่านี้ก็จะขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ"
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.9%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมเฟดหลังจากมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนส.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนส.ค. และยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนส.ค.
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดพุ่ง $10.60 หลังดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว
Wednesday, September 23, 2009 07:19:00
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลง ซึ่งช่วยพยุงสัญญาทองคำปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเสร็จสิ้นในวันพุธ เพื่อจับทิศทางสกุลเงินดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,015.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 10.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,004.20-1,021.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 17.115 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 23.50 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,339.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 302.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.25 ดอลลาร์
แมท เซมาน นักวิเคราะห์จากบริษัท LaSalle Futures Group Inc ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยดัชนีดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว ซึ่งทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า
เซมานกล่าวว่า สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงเมื่อวันจันทร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าคณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟอนุมัติการขายทองคำสำรองในปริมาณ 403.0 ตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 8 ของปริมาณทองคำสำรองในปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายที่จะให้สอดคล้องกับแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า
รายงานระบุว่า ณ วันที่ 21 ก.ย. กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในทองคำรายใหญ่สุดของโลก ถือครองทองคำทั้งสิ้น 1,101.735 ตัน เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ 1,086.479 ตัน
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นเหมือง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 8.24 จุด
Wednesday, September 23, 2009 07:44:00
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคาโลหะได้หนุนหุ้นกลุ่มโลหะทะยานขึ้น รวมถึงหุ้นริโอ ตินโต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 8.24 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 5,142.60 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,134.36-5,189.88 จุด
ฟิลิป จิลเล็ต นักวิเคราะห์จาก IG Index กล่าวว่า หุ้นริโอ ทินโต ปิดพุ่ง 2.4% หลังจากราคาโลหะทองแดงในตลาดลอนดอนทะยานขึ้น และจากข่าวที่ว่าริโอ ทินโต ตกลงขายกิจการบริษัท อัลแคน คอมโพสิทส์ ให้กับบริษัท สวิทเตอร์ เทคโนโลยี เอจี มูลค่า 349 ล้านดอลลาร์ เพื่อลดภาระหนี้สิน
ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเหมืองแร่นั้น หุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส ปิดบวก 1.9% และหุ้นลอนมินปิดพุ่ง 2.3% ส่วนหุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นผู้ผลิตโลหะเงินรายใหญ่ของโลก ปิดบวก 3.6% และหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ปิดบวก 2%
หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากความอ่อนแอของดอลลาร์ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดบวก 0.7% หุ้นบีพีปิดพุ่ง 0.9% และหุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จี ปิดบวก 1.1%
ส่วนหุ้นทุลโลว์ ออยล์ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจน้ำมัน ปิดบวก 0.35% หลังจากบริษัท มอร์แกน สแตนเลย์ ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นทุลโลว์ ออยล์ สู่ระดับ 1,500 เพนซ์ จากเดิมที่ระดับ 1,225 เพนซ์
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนักเทียบยูโร หลังเทรดเดอร์เทขายก่อนรู้ผลประชุมเฟด
Wednesday, September 23, 2009 08:03:00
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้นส่งผลให้เทรดเดอร์ลดการถือครองดอลลาร์และแห่เข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า โดยดีมานด์ดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างมากก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นลงในคืนวันพุธ และก่อนที่การประชุมสุดยอดกลุ่มจี-20 จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.48 ยูโรต่อดอลลาร์ และดิ่งลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 91.120 เยน จากระดับปิดวันจันทร์ที่ 92.040 เยน
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6352 ปอนด์ต่อดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.6194 ปอนด์ต่อดอลลาร์
เทรดเดอร์ลดการถือครองดอลลาร์และแห่เข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งจัดทำโดย ABC News บ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ -46 จุด จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ -49 จุด
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะประกาศมติการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ย วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.
นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% ในการประชุม 2 วันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 23 ก.ย.นี้
กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากขึ้น เพราะเชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐจะยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ แม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบปีและยอดขาดดุลงบประมาณพุ่งเหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ก็ตาม
ดัชนีดอลลาร์ที่ร่วงลง 15% จากระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขณะที่กลุ่มผู้จัดการกองทุนมั่นใจว่าเม็ดเงินลงทุนของพวกเขาจะปลอดภัยในสหรัฐ เพราะเชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
--อินโฟเควสท์--
ภาวะตลาดหุ้นจีน:เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดเช้าขยับขึ้น 0.01% ตามดาวโจนส์
Wednesday, September 23, 2009 08:53:27
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดเช้าวันนี้ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยบรรยากาศการซื้อขายเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและโลหะ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตขยับขึ้น 0.01% แตะ 2,897.81จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นอ่อนตัว 0.22% แตะ 11,787.87 จุด
--อินโฟเควสท์--
Comments
Post a Comment