หลังจากที่บทความก่อนหน้าเราได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) แล้วว่ามีวิธีการดำเนินการอย่างไร ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นหน้าที่ของกิจการขนาดใหญ่ บิ๊กเบิ้ม ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่โตมโหฬาร ก็ควรจะมีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่จริงเท่าที่ผมได้อ่านรายงานประจำปีของบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ หลายบริษัทเขาก็มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกันตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แล้วอย่างนี้มันจะมีปัญหาอะไรอีกละ ในเมื่อกิจการขนาดใหญ่เขาก็ได้ดำเนินการกันมาแล้ว อ๊ะ นั่นแหล่ะครับปัญหา แต่เป็นปัญหาของ SMEs ต่างหาก เพราะขนาดรายใหญ่เขายังทำ แล้ว SMEs อย่างเรามัวทำอะไรอยู่ จากการที่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ถือว่ามีจำนวนมากในบ้านเรา และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ฉะนั้น อะไรที่เกี่ยวกับเรื่อง สินค้าสีเขียว SMEs จะต้องหันกลับมาให้ความใส่ใจกันมากขึ้น เพราะมันจะมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ SMEs นั้นเติบโตและมีที่ยืนอยู่บนตลาดได้ในอนาคต ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เพราะเจ้าใหญ่เขาก็จะใหญ่มากขึ้นไปอีกแน่นอน
SMEs กับการเติบโตบนเส้นทางสีเขียว
การทำอุตสาหกรรมสีเขียวนั้น ไม่ได้เน้นโรงงานระดับใหญ่ แต่กลุ่ม SMEs คือเป้าหมายหลัก เนื่องจากมีสัดส่วนมากที่สุดในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ในเรื่องการเติบโตสีเขียวจึงมีความสำคัญตามไปด้วย จากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อม ถ้าความร่วมมือในระดับเล็กและเปรียบเทียบอัตราการผลิตและการปล่อยมลพิษแล้ว SMEs จะเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีทางเลือกง่ายกว่า และมีโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้าง ผลกำไรและลดการปล่อยของเสียได้รวดเร็วกว่า ทว่า SMEs ต้องพร้อมและยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในเงื่อนไขการแข่งขันเพื่อก้าวเข้าสู่การเติบโตสีเขียวจึงจะเกิดผลในวงกว้าง
อุปสรรคอย่างหนึ่งที่ SMEs สีเขียวปัจจุบันต้องเผชิญคือ การตลาดที่ต้องแข่งขันกับสินค้ามหภาค ต้นทุนต่ำกว่า ทางออกอยู่ที่ การเร่งพัฒนาเทคโนโลยีไม่ว่าจะด้วยตัวเอง รับเอาเทคโนโลยีต่างชาติเข้ามา รวมถึงการร่วมมือกับเครือธุรกิจขนาดใหญ่ และวางเป้าหมายไปสู่เวทีการค้าระดับโลกด้วย
หนทางสู่ผลิตภัณฑ์สีเขียวที่เป็นเลิศ
ผลิตภัณฑ์ (Product)
นอกจากนี้ ในด้านของผลิตภัณฑ์ ยังคำนึงถึงความคงทนถาวร โดยควรจะต้องสามารถใช้งานได้ ภายในเวลาที่กำหนดไว้กับลูกค้า และไม่เสื่อมโทรมสูญสิ้นไปก่อนเวลาอันควร เนื่องจากว่าหากสินค้านั้น เสื่อมสิ้นไปก่อนเวลาอันควร ก็จะทำให้ต้องสิ้นเปลืองพลังงานมารีไซเคิล มาผลิตใหม่อีก ซึ่งกระบวนการ ผลิตนี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
วัตถุดิบ (Raw Material)
หีบห่อ (Packaging)
กระบวนการผลิต (Production Process)
จัดซื้อ จัดหา (Procurement)
นอกจากนี้ ยังมองรวมไปถึงการจัดซื้อ จัดหากันเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่จะซื้อ การคัดเลือกซัพพลายเออร์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย จนถึงการขนส่งมายังแหล่งผลิตของกิจการ ว่าเหมาะสม ไม่สิ้นเปลืองพลังงานและทำลายสิ่งแวดล้อม
การเปิดเผยข้อมูล (Disclosure)
ที่่มา : อุตสาหกรรมสาร ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
Comments
Post a Comment