One Stop Service in Logistics

เนื่องจาก Logistic จะมีกิจกรรมมากมาย และการจะเป็น LSP (Logistic Service Provider) ต้องทำกิจกรรมเยอะมาก เช่น เราต้องการนำสินค้าจากเมืองไทยไปต่างประเทศ ไม่ใช่ดูแต่เรื่องการขนส่ง แต่ต้องดูตั้งแต่เรื่อง Packaging การดูในเรื่อง Shipping หรือแม้แต่เรื่องเกี่ยวกับด่านศุลกากรต่างๆ อันนี้ก็คือ กิจกรรมที่มีมากมาย ซึ่งการให้บริการแบบครบวงจรจึงมีความสำคัญ หรือที่เรียกว่า Integrated Service Provider

ในการจะทำเรื่องของ One Stop Service นั้น จะมีอยู่ 2 มุม คือ มุมแรก 4 เพิ่ม กับมุมที่สอง คือ 3 ลด

4 เพิ่ม คือ
1. เพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนอง
2. เพิ่มความสะดวกในการติดต่อ
3. เพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสารให้มาก เพื่อให้เขาสามารถเข้าไปติดต่อใช้บริการได้สะดวก
4. เพิ่มความชัดเจนในการให้บริการ

3 ลด คือ
1. ลดขั้นตอนในการติดต่อ
2. ลดเวลาในการติดต่อ
3. ลดการเลือกปฏิบัติ

ส่วนวิธีการในการทำ One Stop Service นั้น เราจะใช้ QUALIFY MODEL
Q : Quality Assurance มีการรับประกันคุณภาพ
U : Unity ทำให้เป็นทีม มีน้ำหนึ่งใจเดียว
A : Accessibility สามารถเข้าถึงได้ง่าย
L : Learning Organization ปรับองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
I : IT มีระบบสารสนเทศที่เหมาะสม
F : Full Function
Y : Yield จะต้องให้ประโยชน์ร่วมกัน ระหว่างลูกค้า เรา และผู้ที่เกี่ยวข้องได้

เนื้อหาที่เกี่ยวเนื่อง :
การบริหารการเงินใน Logistics (Financial Management in Logistics)
LEAN กับการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน (LEAN for Supply Chain Management)

Comments